“ต่อ” ไร้แพลนฉลองวันเกิดอายุ 26 ปี ทำงานหนักจนลืมเบญจเพส
เป็นอีกหนึ่งปีทองของนักแสดงหนุ่มหน้าใส “ต่อ ธนภพ” ที่ฮอตงานรุม ทั้งละครเรื่อง “ขอเกิดใหม่ใกล้ๆ เธอ” ประกบคู่กับนางเอกขวัญใจประชาชนอย่าง “แอฟ ทักษอร” หวนลงจอในรอบ 10 ปี นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์ ที่ท้าทายความสามารถอีกด้วย โดยหนุ่ม “ต่อ” ได้เล่าถึงโมเม้นต์นี้ รวมถึงแพลนฉลองวันเกิดอายุครบ 26 ปี
ถามถึงละครเรื่องนี้ก่อนเลย กับการทำงานกับพี่แอฟ
“สนุกดีนะครับ อย่างที่ผมเคยบอกไปแล้วว่า ผมรู้จักกับพี่เขา มาก่อนหน้านี้ แต่ว่าละครเรื่องนี้ทำให้สนิทกันมากขึ้น”
แอฟชมว่าต่อเคาะสนิมทางการแสดง
“เนี่ย ผมเห็นตั้งแต่วันงานแถลงข่าวที่ช่องเลย คือ ผมไม่ได้เก่งขนาดนั้น เพราะว่าเราสนิทกัน รู้จักกันมากกว่า แล้วรู้สึกว่าทุกคนจะมีวันที่ดี และวันที่ตัวเองรู้สึกว่าเรายังทำได้ไม่ได้ คือวันนั้นพี่แอฟเขามีอารมณ์แบบ เหมือนรู้สึกว่าตัวเองอยู่คนเดียว ก็เลยเดินไปหาแล้วบอกว่าจริงๆพี่เปิดได้เลย พี่ไม่ได้อยู่คนเดียว พี่จะเล่นร้อยเทคพี่ก็เล่นเลย ผมเล่นกับพี่เอง คือหมายถึงว่า ผมรู้สึกว่าในละครหรือว่าโปรเจกอะไรก็ตาม มันดีคนเดียวไม่ได้ เราไม่สามารถทิ้งเพื่อนร่วมงานแล้ว ไม่ใช่แค่กับพี่แอฟ แต่ว่ากับริชชี่ หรือใครก็ตาม เพราะว่าเรายังไม่อยากให้คนอื่นทิ้งเราเลย แล้วเราจะทิ้งคนอื่นได้อย่างไร ”
แล้วเป็นอย่างไรบ้างหลังจากนั้น
“มาเลย แม่กลับมาแล้ว(หัวเราะ) ทุกวันนี้โอเคเลย ดีมาก เพราะว่าจริงๆแล้วตอนที่ออดิชั่นด้วยกัน พี่แอฟเก่งมากเลยนะครับ มันเหมือนกับมีวันหนึ่งที่เราลองเล่นกันแบบไม่จริงจัง แต่ว่าเล่นให้พี่บอย พี่ป้อนดู ผมขนลุกเลย ตอนเล่นกับพี่แอฟ พี่แอฟเล่นดีมาก”
คนคาดหวังกับเรื่องนี้เรากดดันไหม
“จริงๆอยากบอกมากว่า เราเองเป็นคนทำงาน พูดตรงๆคือเราไม่รู้หรอก บางครั้งเราไม่ได้ต้องการ ให้ใครมานั่งคาดหวังถึงเรา คือหลายๆโปรเจคที่ทุกคนดูผมมา ผมไม่ได้ทำจากความคาดหวัง ผมทำเต็มที่เท่าที่ผมทำได้ แล้วทุกครั้งที่เติบโตขึ้นมันก็อาจเติบโตได้มากขึ้น ก็เลยรู้สึกว่าอยากให้คงแนวคิดเดิมกันไว้ว่า เรายังไม่ได้เก่งขนาดนั้น เราก็ไม่อยากให้คาดหวังไปเกินกว่าเหตุ แต่ว่าอยากให้รอดู เพราะว่าเรื่องนี้มันใหม่มากสำหรับผม”
กระแสจิ้นบ้านคู่มันก็มาแล้วตั้งแต่ละครยังไม่ออกอากาศ
“แฟนคลับพี่แอฟน่ารักด้วยนะครับ บ้านผมก็น่ารัก พอเจอบ้านพี่แอฟที่น่ารักเช่นกัน มันเลยเกิดการร่วมงานกันง่ายขึ้น แล้วพี่แอฟน่ารักกับทุกคน”
ใกล้วันเกิดแล้ว
“ทำงานครับพี่ ถ่ายภาพยนตร์ ก็คือจริงๆปีนี้ผมทำงานหนักมาก แทบไม่มีโอกาสเจอพี่ๆนักข่าวที่งานเลย ไม่ใช่ว่าเราไม่ไปนะ เราไปไหนไม่ได้ เพราะว่าละครก็ถ่าย ภาพยนตร์ก็ต้องรีบเร่ง ก็เลยแบบ จริงๆช่วงนี้ผมหนักมาก ”
เป็นปีที่เราจะเลยวัยเบญจเพศแล้วใช่มั้ย เป็นยังไงบ้าง?
“ใช่ครับ ลืมคำนี้ไปเลย ผมแฮปปี้กับชีวิต 25 ปีของตัวเอง และอยากจะต้องรับชีวิต 26 แบบแฮปปีด้วยเหมือนกัน”
ช่วง 25 ปีที่ผ่านมาเจออะไรหนัก ๆ มั้ย?
“ปลายปีที่เริ่มถ่ายหนังครับ ถ้าอยากรู้ว่าหนักยังไง รอหนังฉาย”
ฮาร์ดคอร์ขนาดนั้นเลยเหรอ?
“มันมีคอนฟลิกซ์บางอย่างที่ไม่ได้เป็นไปตามบทเสมอไป ผมว่าสามารถเห็นได้ในหนัง เป็นสิ่งที่ไม่เคยเจอแล้วชีวิตนี้ก็ไม่คิดว่าจะเจอด้วย แต่คิดว่าได้ใช้ครับ เรื่องราวเกิดขึ้นที่นิวยอร์ก สนุกดีครับ รู้สึกว่าหนักสุดแล้วในปีที่ผ่านมา”
อายุงานมากขึ้น ตั้งใจให้งานยากขึ้น ท้าทายขึ้นด้วยมั้ย?
” ตั้งใจมั้ย ตั้งใจครับ แต่พอเป็นงานไม่มีอะไรง่าย อะไรยาก ผมเชื่อว่าประสบการณ์มากขึ้นความสนใจเราจะเปลี่ยนไป ตอนเด็กกว่านี้เราจะสนใจบทประเภทหนึ่ง แต่พอเราโตขึ้นจะเริ่มสนใจไปอีกประเภท แล้วทุกวันนี้เราไม่อยากให้คนยึดติดว่าเราต้องเล่นแบบไหน เราก็จะพยายามเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ มากกว่า”
กดดันมั้ย?
“กดดันครับ แต่ไม่เกี่ยวกับคนอื่นนะ เป็นที่ตัวผมเอง ผมกลัวทำไมได้”
พอเป็นเราหลายคนจะคาดหวังความปัง กดดันมั้ย?
“นี่คือสิ่งที่ผมพยายามพูด คือผมไม่รู้หรอกครับว่าอันไหนประสบความสำเร็จหรือไม่ประสบความสำเร็จ ผมมีหน้าที่ทำ ทุกวันนี้ผมได้แต่ขอบคุณทุกคน ที่ประสบความสำเร็จได้ไม่ใช่เพราะผม ผมทำแค่เต็มที่ แต่คนที่ทำให้ประสบความสำเร็จคือคนดู ไม่เกี่ยวกับผมครับ ก็คอยดูการเจริญเติบโตของผมมากกว่า จริง ๆ ทุกวันนี้ผมก็รู้สึกว่าเรายังไม่ได้โต เรื่องนี้ผมก็มาเรียนรู้ผมก็มาเรียนรู้กับพี่แอฟเยอะมาก ช่วยไ้ด้เยอะครับ”
ด้วยความที่ทำงานหนัก วันเกิดปีนี้จะซื้อของขวัญอะไรให้ตัวเองมั้ย?
“ขอให้ได้นอนก่อนก็ดีแล้ว(หัวเราะ) ตอนนี้ไม่ค่อยได้นอน ขอพรให้ได้นอนก่อน พรปีนี้ขอแค่ให้ทุกคนชอบงานเรา ปีนี้เป็นอีกปีหนึ่งที่ผมรักงานทุกชิ้นที่ผมทำ รักมาก เพราะว่าหนังก็คือหลุดไปเลย ใน 5 ปีที่ผ่านมาไม่มีใครเห็นธนภพในเฉดนี้ ละครก็เป็นเวย์ที่ผมสนใจ และได้มีโอกาสมาเล่น ผมก็มีความทุ่มจริงๆครับ”