“อ๊อฟ” สตรอง! หลังประกาศเลิก “ไฮโซภูมิ” เหตุ อีกฝ่ายรู้สึกได้รับยังไม่พอ!
หลังประกาศเลิก ลั่นกลางอินสตาแกรมไปแล้ว สำหรับ “อ๊อฟ ปองศักดิ์” กับ “ไฮโซภูมิ” ล่าสุดวันนี้ในบรรยากาศซ้อมคอนเสิร์ต “วันมหัศจรรย์ของอ๊อฟปองศักดิ์” เจ้าตัวก็ได้เผยถึงเหตุผล และจุดเริ่มต้นของปัญหาทั้งหมดด้วยน้ำเสียงและสีหน้าอันปกติ ด้วยสาเหตุสำคัญคือไฮโซภูมิรู้สึกว่าความรักจากอ๊อฟมีให้เขาได้ไม่เพียงพอ ทั้งนี้หนุ่มอ๊อฟยังตอบชัดอีกว่ายังไม่พร้อมที่จะกลับไปอยู่ในถานะเดิมหากอีกฝ่ายขอคืนดี
พี่อ๊อฟตอนนี้สภาพจิตใจเป็นยังไงบ้าง?
“คือเอาจริงๆแล้วทุกๆความสัมพันธ์ เลิกกันด้วยอะไร เป็นธรรมดาที่จะต้องเสียใจ แล้วมัน 2 ปีกว่าๆ สำหรับอ๊อฟ อ๊อฟมองว่ามันเป็นเวลาที่นานมาก แล้วเวลาที่เราอยู่ด้วยกันมันเป็นสิ่งที่เราทำเต็มที่ที่สุดแล้วจริงๆ
ตัดสินใจมานานหรือยัง?
“คือจริงๆตัวอ๊อฟเอง อ๊อฟไม่ได้ตัดสินใจอะไรเลยอ๊อฟก็ยังงงเหมือนกัน ว่าเป็นอย่างนี้ได้ยังไงเพราะมันไม่ได้มีอะไรบอกล่วงหน้าก่อนเลย ที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น อ๊อฟเป็นคนที่รู้สึกอะไร คิดอะไร ก็โพสต์แล้วก็ทำตามที่เรารู้สึก”
พี่อ๊อฟเป็นคนตัดสินใจ?
“คือมันเริ่มต้นจากการที่อ๊อฟต้องสูญเสียแม่และสภาพจิตใจก็แย่ เอาง่ายๆคือเค้าให้เวลาที่เราจะรักษาความสูญเสียข้างในของเรา…ไม่พอ 120 กว่าวันกับการที่อ๊อฟอยู่กับแม่มา 35 ปีแล้วจะให้อ๊อฟกลับไปเป็นเหมือนตอนที่แม่ยังอยู่ มันยากไหมล่ะ”
เขาเห็นว่าเราเศร้าเหรอ?
“ไม่ใช่หรอกครับ เพราะด้วยระยะเวลาที่ผ่านมาอ๊อฟมอบความสุขให้กับคนรอบข้างอ๊อฟตลอด จนลืมมอบความสุขให้กับตัวเอง เราก็ต้องใช้เวลาในการรักษาแผลให้มันหาย อ๊อฟจะบอกว่า 120 กว่าวันที่สูญเสียแม่ไป อ๊อฟอยู่กับเขาทุกวัน มีชีวิตปกติ คือเราก็มีเวลาให้กันแต่อ๊อฟไม่เข้าใจว่ามันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ยังไง แต่อ๊อฟก็เข้าใจนะว่าบางครั้งเวลาที่เราจะมีคอนเสิร์ตใหญ่ มีงาน เวลาของอ๊อฟปกติตอนที่แม่ยังอยู่ ก็จะมีแม่ ครอบครัวแล้วก็เขา ตอนนี้แม่ไม่อยู่ อ๊อฟก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาต้องการให้ความสัมพันธ์ของเรามันคืออะไร”
มีสัญญาณอะไรไหม ว่ามันไม่เหมือนเดิม?
“เค้าบอกว่าอ๊อฟไปเหมือนเดิม แต่จะให้เขาพยายามอยู่ฝ่ายเดียวมันก็ไม่สามารถทำให้ความรักมันไปต่อได้นะ เขาก็เหนื่อยเหมือนกัน”
เขารู้ตั้งแต่ตอนที่คุณแม่ป่วยหรือว่าหลังจากนั้น?
“เขารู้สึกตั้งแต่เรากลับมาจากทัวร์ยุโรป พอคุณแม่เสียไป หลังจากวันเผาคุณแม่อ๊อฟก็บินไปทำงานที่ยุโรปหนึ่งเดือน ตลอดระยะเวลาพี่อ๊อฟอยู่ยุโรปอ๊อฟก็คุยกับเขาปกติ คุยไลน์ มีอะไรก็ส่งบอกเขาปกติ ก็ไม่รู้ว่ามันมีสัญญาณอะไรที่ทำให้เขารู้สึกว่าเขาไม่สำคัญในชีวิตเราแล้ว”
พี่อ๊อฟได้ขอเวลาไหม?
“คือก่อนหน้านี้เราทะเลาะและเลิกกันมาหนึ่งครั้งแต่ก็ไม่ได้เลิกนะมันเป็นแค่ห่างกันเพื่อให้ได้ทบทวนในสิ่งที่เราพูด”
อันนี้คือหลังจากที่คุณแม่เสียหรอ?
“หลังจากที่คุณแม่เสีย ช่วงเดือนธันวาคม”
ตัวเราไม่ได้รู้สึกว่าเราเปลี่ยนไปใช่ไหม หรือความรักเรากับเขาน้อยลง?
“ถ้าเป็นพฤติกรรม คือเหมือนอ๊อฟอยู่คนเดียวมากขึ้น แต่ว่าความรักเท่าเดิม อ๊อฟเคยถามเขานะว่าอะไรที่ทำให้เธอรู้สึกว่าฉันให้ความสำคัญกับฉันน้อยลง คืออ๊อฟก็ให้ทุกอย่างนะทั้งเวลาที่เราทำงานหรือว่ากลับมา วันหยุดก็อยากใช้เวลากับเขา บางทีเวลาเราทำงานกลับมาเราก็อยากนอนทิ้งร่างอ่ะเนาะ แต่ใจเราก็อยากอยู่ด้วยกัน คิดถึงกัน คือทุกอย่างมันก็ยังเป็นปกตินะสำหรับอ๊อฟ”
เราก็พยายามรักษาความรักของเราให้ได้มากที่สุด?
“ถ้าในมุมของอ๊อฟ อ๊อฟก็ทำทุกอย่างเต็มที่แล้ว คนเราส่วนใหญ่เวลาได้อะไรแล้วเราจะคิดว่าเราจะได้แบบนั้นตลอด สำหรับมุมของอ๊อฟ แต่บางทีเราไม่ได้รักคุณน้อยลงแต่เราแค่รักตัวเองมากขึ้น เราก็ไม่ได้เห็นแก่ตัวนะ เพราะเรารู้สึกว่าแผลภายในใจของเราถ้าคุณให้เวลาเรามากกว่านี้มันก็คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้หรอก”
ในความรู้สึกของเรา เราได้ยื้อความรักครั้งนี้ไว้หรือยัง?
“ก็อยู่เต็มที่นะ แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดคุกเข่าแล้วกอดเข่าเขา แต่อ๊อฟแค่บอกว่าเธอลองดูในสิ่งที่ฉันเคยทำให้เธอว่าฉันไม่พยายามยื้อเธอตรงไหน ว่าฉันไม่พยายามรักษาความสัมพันธ์ของเราตรงไหน”
เป็นการคุยกันด้วยดีใช่ไหม?
“คือตอนที่บอกว่าจะเลิกกัน ในตอนเช้าวันนั้นยังดีอยู่เลย เพียงแค่เป็นเรื่องที่อ๊อฟพูดขึ้นมาแล้วเค้ารู้สึกว่าเค้าไม่สำคัญแล้ว มันก็เลยกลายเป็นว่าตัวอ๊อฟเองก็ไม่อยากจะไปนั่งอธิบายอีกแล้ว อ๊อฟถามเขาว่า เธอจะให้ฉันกลับไปเป็นเหมือนตอนที่แม่ฉันยังอยู่เลยหรอ”
แสดงว่าปัญหาหลักๆก็คือเรื่องนี้ใช่ไหม?
“จริงๆแล้วปัญหาหลักๆมันคือหัวใจอ๊อฟเองแหละ เอาจริงๆต้นเหตุมาจากใจอ๊อฟไม่แข็งแรงพอที่จะมอบความรู้สึกดีๆทั้งหมดให้กับคนหลายๆคน”
ณ ตอนนี้เราก้าวออกมา เรารู้สึกอะไรกับเขา?
“ก็ยังรู้สึกหวังดีกับเขานะ รู้สึกว่าเค้าก็เป็นคนหนึ่งที่ดีมากๆในชีวิตอ๊อฟเลย อยากที่บอกว่าเราเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่เพราะว่าเราก็โพสต์มากมายมันก็เป็นธรรมดาที่จะมีคนหมั่นไส้บ้าง”
จะมีโอกาสกลับมาคบกันไหม?
“จริงๆ แล้วตัวอ๊อฟเองเวลาออกไปงานช่องวัน พัตโตะก็ยังถามอ๊อฟเรื่องความรัก ถามว่าความรักเป็นยังไง ก็ยังตอบว่าความรักดี โอเค แต่พออ๊อฟกลับมาบ้านแล้วเห็นคอมเม้นท์ที่มีคนมาคอมเม้นท์ว่า อย่าเพิ่งเลิกกันเลย ภูมิลบรูปหมดแล้ว เราก็โอเคแสดงว่าเขาตัดใจแล้วนะ”
ตอนนั้นมันยังมีความคลุมเครือหรือยังไง?
“คือตอนที่อ๊อฟบอกว่าจบกัน แต่เขาไม่ยอมตอบ อ๊อฟก็เลยบอกว่าเธอ.. ฉันต้องการคำตอบ เธอจะเอายังไง เพราะว่าเรื่องนี้ถ้าทำให้เธออึดอัด และทำให้เราอึดอัด มันก็ทำให้ความรักของเรามันไปต่อไม่ได้”
หลังจากที่ประกาศไปก็ยังไม่ได้ติดต่อกันเลยเหรอ?
“อ๊อฟส่งไลน์ไปหาเขา แต่หลังจากนั้นอ๊อฟก็ไม่ติดต่อ เพราะอ๊อฟรู้สึกว่าเขาต้องใช้เวลาในการคิดว่าทุกอย่างมันเป็นยังไง มันเกิดจากอะไร แล้วเรื่องที่อ๊อฟบอกมันเป็นเรื่องของการรักษาความสัมพันธ์ คือบางทีถ้าเราคนใดคนนึงปรับ แล้วอีกคนรู้สึกว่าจะรอรับอย่างเดียวมันก็ไม่ได้ไง”
แสดงว่า ณ วันนี้ก็ยังมีความไม่เข้าใจกันอยู่ ยังไม่ได้เคลียร์ใช่ไหม?
“ถ้าสำหรับอ๊อฟเคลียร์แล้ว แต่สำหรับเขาไม่รู้ว่าเขาเคลียร์ใจตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน แต่ว่าเราก็อยากจะพยายามรักษามิตรภาพที่ดี เพราะอย่างน้อยที่สุดอ๊อฟบอกเขาว่าครั้งนึงเราก็เคยเป็นคนที่เข้าใจกันมากที่สุด และเรื่องทุกอย่างที่ผ่านมามันมีแต่ความทรงจำที่ดีไม่ใช่เหรอ มันเพิ่งจะเกิดเรื่องเหล่านี้เอง แล้วถ้าให้พูดตรงๆ เธอส่งการ์ดมาขอโทษฉันกี่ครั้งแล้วในการที่เธอคิดเยอะ เธอคิดมาก แล้วตัวอ๊อฟเองแค่รู้สึกเสียใจที่เขาควรจะเป็นคนที่เข้าใจเรามากที่สุด ในวันที่เราดาวน์มากๆ เลย เขาอยู่ตรงนั้น และเขาก็รู้ว่าเราเป็นยังไง เหมือนคนอื่นเห็นอ๊อฟก็จะสนุกสนานใช่มั้ย มันก็ไม่ได้หมายความว่าอ๊อฟจะไม่ได้รู้สึกเจ็บที่แผลข้างในของเราใช่มั้ย”
ณ วันนี้ก็ยังมีความไม่เข้าใจกันอยู่ใช่ไหม?
“สำหรับเรา เราเคลียร์แล้ว แต่สำหรับเขาไม่รู้ว่าเขาเคลียร์ใจตัวเองได้มากน้อยแค่ไหนครับ แต่ว่าเราก็อยากจะพยายามรักษามิตรภาพที่ดี เพราะว่าอย่างน้อยที่สุด อ๊อฟบอกว่า เธอ ครั้งหนึ่งเราก็เคยเป็นคนที่เข้าใจกันมากที่สุด แล้วก็เรื่องทุกอย่างที่ผ่านมา มันมีแต่ความทรงจำที่ดีไม่ใช่เหรอ มันเพิ่งมาเกิด ถ้าให้พูดตรงๆ ตรงนี้ เธอส่งการ์ดมาขอโทษชั้นไม่รู้กี่ครั้งแล้ว ในการที่เธอคิดเยอะ เธอคิดมาก แล้วตัวอ๊อฟเอง แค่รู้สึกเสียใจที่เขาควรจะเป็นคนที่เข้าใจเรามากที่สุด ในวันที่เราดาวน์มากๆ เลย เค้าอยู่ตรงนั้น และเขาก็รู้ว่าเราเป็นยังไง แต่เพียงแต่ว่าคนเราเหมือนคนปกติ พี่น้องนักข่าวเวลาเห็นอ๊อฟ เราก็สนุกสนาน มันก็ไม่ได้หมายความว่าอ๊อฟจะรู้สึกเจ็บที่แผลข้างใน”
เกี่ยวกับที่เค้าเด็กกว่าเราไหม?
“ไม่รู้ แต่ว่าอ๊อฟ คือเท่าที่รู้จักกันมา 2 ปีกว่าๆ เขาโตนะ หมายถึงว่าด้วยวัยของเขาด้วย ที่ในบางครั้งพอมาคบกับเราที่โตกว่า เขาก็จะมีความคิดที่โตขึ้น แต่ก็จะเป็นธรรมดาที่บางมุมเขารู้สึกว่าอยากจะเป็นเด็ก คืออ๊อฟเอง อ๊อฟก็บอกว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนดีนะ คืออ๊อฟเข้าใจเป็นคนที่ เหมือนถ้าเขาไม่เข้าใจว่า เราเสียใจมากแค่ไหนข้างในมันก็จะไม่เก็ทหรอก”
พอครั้งนี้ไม่สมหวัง มันจะมีผลต่อความรักครั้งต่อไปไหม ?
“ไม่เข็ด(หัวเราะ) เอาจริงๆ แล้วในมุมอ๊อฟนะ อ๊อฟว่าความรักมันเป็นสิ่งที่ดี มันเป็นเรื่องที่สวยงาม เพียงแต่ว่าเข้าใจกันมากน้อยแต่ไหน คืออย่างง่ายเลย ทุก ๆ ความสัมพันธ์ ควรจะมีพื้นที่ให้แต่ละคนได้หายใจด้วย เพราะไม่งั้นก็จะอยู่กับสังคมไม่ได้ โลกนี้ไม่ได้มีแค่เรากับแค่สองคน มีคนอื่นๆด้วย เราก็ต้องมีสังคมของเรา มีเพื่อน เขาก็ต้องมีสังคมของเขา ที่เป็นเพื่อนเขา ซึ่งพอเป็นก็ไม่เคยรู้สึกว่าเวลาที่เขาไปอยู่กับเพื่อนเดี๋ยวมันจะเป็นปัญหาสำหรับเรา”
อยากให้แต่ละคนมีโลกส่วนตัวของตัวเอง?
“ อ๊อฟว่ามันเป็นมุมส่วนตัว มุมที่เราจะรักษาแผลของตัวเอง บางที แม้แต่กับพ่อแม่เรื่องบางเรื่องเรายังไม่สามารถปรึกษาเขาได้เลย เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเค้าจะคิดเห็นยังไง ทุกคนต้องมี ยิ่งอ๊อฟเอง อ๊อฟโตมา โดยการตัดสินใจอะไรทุกอย่างด้วยตัวเอง เราก็จะมีความเชื่อในสิ่งที่เราตัดสินใจอยู่แล้วพอประมาณ”
คนรอบข้างให้กำลังใจว่ายังไงบ้าง?
“ จริงๆแล้วทุกคนที่เขารู้จักอ๊อฟจริง ๆ เขาจะเป็นกำลังใจให้ เพราะเขารู้อยู่แล้ว ว่าทุกๆครั้งที่อ๊อฟมีความรักหรือว่าอะไรอย่างนี้ เขาเห็นว่าเราทุ่มเทและเต็มที่ขนาดไหน อ๊อฟเป็นคนแรดแต่ไม่ร่าน เรารักเดียวใจเดียว ไม่ได้มีปัญหาเรื่องของการที่เราจะเผื่อใจไปรักคนอื่นอยู่แล้ว”
หนักแค่ไหนเพราะเราก็เจอทั้งเรื่องแม่แล้วก็ต้องมาเจอเรื่องนี้อีก?
“ เรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กมากสำหรับชีวิต เพราะเราเสียใจมากๆกับเรื่องของแม่แล้วทุกวันนี้ พอยิ่งเจอเหตุการณ์แบบนี้ ยิ่งทำให้รู้สึกว่าอยากให้แม่อยู่จังเลยถ้าแม่อยู่มันคงไม่เกิดอะไรแบบนี้ นี่สำหรับเรานะ เพราะเราเองก็คงไม่ได้ หาความสุขให้ตัวเอง จนคนอื่นเขาคิดว่าเราเห็นแก่ตัว”
กระทบกับงานไหม ?
“ สำหรับอ๊อฟไม่กระทบเลยครับ เพราะว่าอ๊อฟมองว่า มันเป็นพาร์ทหนึ่งในชีวิต ที่เข้ามาแล้วก็ผ่านไป ถ้าเกิดมันอยู่ไปได้ตลอดรอดฝั่ง มันก็ถือว่าเป็นเรื่องดี ถ้ามันไม่สามารถอยู่ได้ไปตลอด ก็คิดซะว่ามันเป็นหนึ่งในพาร์ทของชีวิตเราที่เข้ามาเป็นบทเรียนให้เรา อ๊อฟว่าคอนเสิร์ตในครั้งนี้ มันจะทำให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นทำให้อ๊อฟเข้มแข็งขึ้น “
ในวันหนึ่งจะกลับมาเป็นเพื่อนกันได้ไหม ?
“ อ๊อฟไม่รู้ เพราะว่าเท่าที่ผ่านมา อ๊อฟเป็นเพื่อนได้นะ กับแฟนเก่าทุกๆคน ถ้าเกิดว่าเขาไม่ได้ทำร้ายจิตใจเราขนาดนั้น “
ถ้าเกิดว่าเขาทบทวนตัวเองแล้วกลับมาขอโอกาส ?
“ อ๊อฟพอแล้ว ณ ตอนนี้ เพราะว่าถ้ากลับมา อ๊อฟเคยถามว่าเท่าไหร่ถึงจะพอ สำหรับเขา หมายถึงความสำคัญที่เธออยากจะได้ เวลาที่เธออยากจะได้จากฉัน เท่าไหร่ถึงจะพอ เขาก็บอกว่ามันเคยพอ แต่ตอนนี้มันไม่พอ อ๊อฟก็เลยบอก อ๋อ โอเค ได้ “
เขาปิดกั้นเราทุกช่องทางเลยไหม ?
“ อ๊อฟปิดก่อน คืออ๊อฟส่งไปหาเขาก่อน แต่เขาไม่อ่าน ไม่ตอบ ก็เลยรู้สึกว่า โอเค ถ้าไม่อ่าน ไม่ตอบ ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องเคลียร์กันแล้ว สำหรับอ๊อฟเอง อ๊อฟก็เคลียร์แล้วนะ ในมุมของอ๊อฟ (เราบล็อคเขา) ตอนแรกบล็อค แล้วก็ปลดบล็อค (ใจอ่อน) ก็นิดหนึ่ง แล้วก็บล็อคใหม่ดีกว่า เพราะเขาบล็อคเราแล้ว “