“ต่อ”ไม่กดดันกระแสร้องเพลง “รักติดไซเรน” เพี้ยน มั่นใจไม่ได้เป็นแบบนี้ทุกครั้ง
แม้กระแสคลิปร้องเพลง “รักติดไซเรน” จะซาลงไปบ้างแล้วแต่ก็ยังมีหลายคนสงสัยว่าทำไม “ต่อ ธนภพ” อดีตสมาชิก 9by9 ที่ผ่านประสบการณ์บนเวทีมาบ้างแล้วถึงได้ร้องหลุดคีย์ไปซะได้ ซึ่งหนุ่มต่อก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ในวันนั้น ยอมรับว่าพลาดแต่ไม่โทษใคร พร้อมจะแก้ไขและพัฒนาให้ดีขึ้น มั่นใจว่าไม่ได้ร้องเพี้ยนทุกครั้ง
กระแสที่ร้องเพลงเพี้ยนเป็นยังไงบ้าง ?
“เอาจริงๆ ส่วนตัวรู้สึกว่าผ่านไปแล้วและก็ต้องเรียนรู้กับมัน ไม่ได้รู้สึกกดดันมากขนาดนั้น”
แต่ในฐานะที่เราเป็นศิลปิน ?
“ผมว่าวันนี้ทุกคนอาจจะต้องเข้าใจจริงๆว่าถ้าผมเป็นศิลปิน แต่ทางของศิลปินมันมีหลายแบบ ศิลปินไม่จำเป็นต้องถนัดเป็นทุกอย่าง แม้กระทั่งตอนอยู่ 9by9 ที่มันมีโปรเจคเลือดข้นคนจาง เมื่อเทียบกับงานเพลง งานคอนเสิร์ตและงานแสดงจะรู้ว่าผมมีสกิลได้เป็นหลัก ผมจะบอกว่าผมรู้สึกไม่ดีที่มันออกมาไม่ดี แต่ผมไม่ได้ตั้งใจให้มันออกมาแบบนั้น สุดท้ายแล้วเมื่อเราออมาทำงานทุกคนอยากให้มันดีหมดแหละแต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วผมไม่สามารถมานั่งโยนได้ ไม่ต้องใครทั้งนั้น ไม่ต้องโทษสิ่งของ เวลา สุดท้ายแล้วเรายอมรับว่าวันนั้นเราพลาด แต่จะอธิบายเพิ่มเติมว่าเราเรียนรู้และมันไม่ได้เป็นแบบนี้ทุกครั้ง ถ้าใครดูคลิปงานเรื่องเพลงของผม ผมไม่ได้เป็นแบบนี้ทุกคลิปนะ ผมก็เป็นคนปกติที่สามารถรับงานที่เกี่ยวกับร้องเพลงได้ปกติ”
หรือเพราะอุปกรณ์ไม่พร้อม ?
“ไม่ว่าอะไรตามเป็นเพราะผมไปได้ professional ขนาดนั้นที่จะควบคุมทุกอย่างได้ พวกผม 4 คนไม่ได้ยินเสียงข้างนอกด้วยว่ามันเบอร์ไหน แต่เราไม่โทษกัน”
กดดันการร้องเพลงครั้งต่อไป ?
“ไม่ได้กดดันเลย ครั้งนั้นไม่ใช่ว่าเราไม่ตั้งมจไม่เต็มที่แต่ผมยืนยันว่าทุกวันนี้ผมตั้งใจ ผมเต็มที่ทุกครั้งแต่ผมไม่ใช่ perfect man ไม่สามารถทำทุกอย่างให้ร้อยเปอร์เซ็นได้ มันเลยเป็นเหตุการณ์ถ้ามันพลาดแต่เรายอมรับและพร้อมเรียนรู้พัฒนา อย่างน้อยวันนี้เราพลาดก็ยังดีที่เราจะพัฒนาได้อีก”
ช่วงแรกนอยด์ไหม ?
“ไม่นอยด์ครับ ปกติมา ทุกคนรู้อยู่แล้วว่ามันเป็นเรื่องปกติ อย่าซีเรียสเลยเขาไม่ได้เกลียดเรา เราพยายามทำความเข้าใจมากกว่า”
เพราะไม่ได้ซ้อมด้วยกัน ?
“ก็จริง 4 คนเราไม่เคยเจอกันก่อนจะไปเวที แต่คนนอกไม่ได้มารับรู้กับผมว่าเกิดไรขึ้น ผิดแล้วผิดเลยยอมรับแล้วจะแก้ไขนะครับและจะทำให้ดีขึ้นแล้วก็อย่าว่าน้องเลย ไม่ใช่ความผิดใครมันผ่านมาสักพักแล้ว พอได้แล้ว ถ้าววันนี้อยากเสพไปเสพงานมีตติ้งที่ไปที่มาเลเซีย”
บรรยากาศเป็นยังไง ?
“สนุกมากครับ มาเลเซียล่าสุดคือแฟนๆดีมาก เราทำโชว์ออกมาได้ดี”
ต่างจากที่ไทยยังไง ?
“ของมาเลเซียคือมาในรูปแบบโชว์มากขึ้น เป็น Showcase เป็น Mini Concert เบาๆ”
ฟีดแบคเป็นยังไง ?
“โอเคครับ แต่สิ่งที่ทำให้เราพอใจไม่ได้อยู่ที่ฟัดแบคมันอยู่ที่วันนั้นเราลงมาจากเวทีแล้ว ทุกอย่างมันดี สนุกจังเลยดีใจที่ได้มาที่นี่แค่นั้นจบล่ะ จริงๆมาเลเซียทำให้ผมปลดแอกเรื่องนี้เพราะแปลว่าเรามีสติมากขึ้น เราทำทุกอย่างให้ดีขึ้นได้”
มีแพลนไปที่ไหนบ้าง ?
“ของผมต้องพักมีตติ้งแล้ว พรุ่งนี้ต้องเริ่มโปรเจคการแสดงอันใหม่”
