“ไมค์ พิรัชต์” ฮอตงานที่จีนคิวยาวถึงปีหน้า ปัดทิ้งงานที่ไทย
เรียกได้ว่านักแสดงหนุ่ม “ไมค์ พิรัชต์” มุ่งทำงานที่จีนมีงานจ่อคิวอีกเพียบ แถมแฟนคลับยังแน่นอีกด้วย ถึงขั้นคว้ารางวัลศิลปินต่างประเทศที่โดดเด่นและได้รับความนิยมสูงสุดที่ประเทศจีน 2 ปีซ้อน โดยวันนี้หนุ่ม “ไมค์” ได้มาออกงานที่ไทยจึงได้อัปเดตผลงานที่จีนให้ฟังว่า
บินตรงจากกองละครมาออกงานเลย
“จริงๆเพิ่งเสร็จจากกองละครประมาณตีสาม ตอนนี้ที่นั้นประมาณ 0 องศา ก็ขึ้นเครื่องมาเลย อากาศเปลี่ยนไปเลย ตอนนี้ยังใส่ชุดที่หนาวอยู่ สภาพร่างกายปรับตัวเร็ว รับได้อยู่แล้ว”
ทำงานที่จีนเป็นยังไงบ้าง ?
“ก็ดีครับ ช่วงนี้จะงานเยอะหน่อย อยู่ๆก็อัดแน่นเข้ามา เพิ่งถ่ายรายการทีวีเลตี้โชว์จบไป เป็นรายการผู้ชายแต่งหน้าดาราผู้หญิง ส่วนงานแสดงกำลังรอทางบริษัทสรุปอยู่ ถ้าเป็นเรื่องซีรีส์และละคร ที่ถ่ายทำอยู่เป็นส่วนหนึ่งของรายการ ช่วงละครสั้น ช่วงนี้งานแน่นนิดนึง คิวยาวถึงปีหน้า ดูแลตัวเองเรื่องอาหารการกินครับ ออกกำลังกายไม่ได้ออกมาเกือบปีหนึ่งแล้ว ไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่ และช่วงนี้ก็พยายามหาอะไรหลายๆอย่างทำด้วยเพิ่มความสามารถพิเศษเข้าไปหน่อย ช่วงนี้ก็จะทำเกี่ยวกับพวกสร้างหุ่นยนต์ ล่าสุดก็ไปสร้างนิ้วหุ่นยนต์คล้ายๆเอนจิเนียร์ โปรแกรมมิ่งเข้าไปตัดต่อสายไฟต่างๆนาๆ ไปออกรายการมา”
แต่ล่าสุดเราเพิ่งไปรับรางวัลมา ?
“ใช่ครับ เพิ่งไปรับรางวัลมา เป็นรางวัลศิลปินต่างประเทศยอดเยี่ยม เป็นปีที่สอง จริงๆตลกที่ว่ารูปของปีที่แล้วและรูปของปีนี้ท่าเดียวกันเลย ผมยืนโพสท่าเดียวกัน ความรู้สึกตื่นเต้นเวลาขึ้นเวที เวลาพูดภาษาจีน ผมก็จะตื่นเต้นประมาณนั้น”
รางวัลที่เราได้รับ รับในฐานะซุปเปอร์สตาร์จีน ?
“เป็นรางวัลของจีนครับผม ของประเทศจีนที่มอบให้กับศิลปินต่างชาติ ที่มีชื่อเสียง”
แต่เหมือนกระแสที่จีนของเรานั้นยังดีอยู่
“อันนี้ผมคงตอบเองไม่ได้ ให้แฟนๆตอบดีกว่า จริงๆเราไม่ได้โฟกัสอะไรกับตรงนี้มาก ตั้งใจทำงานไปเรื่อยๆ มากกว่า”
เรียกว่ายังฮอตอย่างต่อเนื่อง
“ก็น่าจะๆ(หัวเราะ)”
ตอนนี้เรามีแพลนอยู่ที่จีนยาวไหม ?
“ส่วนใหญ่ก็อยู่ที่โน่นครับผม แต่ครั้งนี้กลับมาทำงานกับ King Power ครั้งที่แล้วได้มีโอกาสร่วมงาน รอบนี้พอเขาติดต่อมาก็เลยรีบเคลียร์คิว”
ตอนนี้เราอยู่จีนนานแค่ไหน ?
“ประมาณ 90% ครับ ไม่ได้ซื้อบ้าน”
แอบวางรากฐานไว้ที่นู่นบ้างหรือยัง ?
“ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องการวางรากฐาน ตอนนี้ก็แค่ทำงานไปก่อน”
เราตั้งใจจะอยู่ที่จีนเลยไหม ?
“เอาเป็นว่าให้พรหมลิขิตนำพาดีกว่า”
แล้วงานที่ประเทศไทยล่ะ มีติดต่อเข้ามาไหม?
“งานที่ไทยมีติดต่อมาเรื่อยๆ ดูคิวและเวลาที่ตรงกันดีกว่า”
เราไม่ได้ตัดสินใจรับเพราะว่างานที่จีนดีกว่าหรือเปล่า ?
“ไม่เกี่ยวครับ เป็นโอกาสมากกว่า ถ้าเป็นละครผมก็จะดูเรื่องของบท บริษัทก็จะดูว่าบทเป็นยังไง ความน่าสนใจของโปรเจคงานมากกว่า ปฏิเสธงานที่ไทยไปเยอะมั้ยหรอ ผมไม่ใช่คนที่คุยและปฏิเสธเอง ผมก็จะไม่ค่อยรู้รายละเอียด งานทุกอย่างจะต้องผ่านผู้ใหญ่ทางค่าย และทีมจะผ่านหลายระดับน้อยกว่าจะมาถึงผม”
อย่างงานที่ประเทศจีน ตรงตามความตั้งใจของเราไหม ?
“คือถามว่าตั้งใจไหม มันก็ประมาณนึงผมว่า มันไม่ได้แย่”
ทุกวันนี้มันถึงจุดที่เราพอใจหรือยัง ?
“เอาจริงๆผมตั้งเป้าหมายใหม่ได้เรื่อยๆ ปีหน้าอยากจะไปแนวเทคโนโลยีมากขึ้น ผมเพิ่งมารู้สึกตัวว่าสิ่งที่ผมชอบ นอกเหนือจากวงการมันคืออะไร โต๊ะทำงานผมตอนนี้ก็จะมีพวกพิมพ์เขียว น็อต ไขควง ค่อนข้างเยอะ ก็สร้างมือหุ่นยนต์เสร็จมาแล้วหนึ่งอัน อีกหน่อยก็จะสร้างทั้งตัว เราศึกษาจากการถามคนรู้จัก และดูใน YouTube ปัจจุบันนี้ยังเป็นงานอดิเรกอยู่ แต่ในอนาคตอย่างไม่แน่ว่าอาจจะทำให้มันกลายเป็นอะไรที่จริงจังขึ้นมา”
เราจะสร้างหุ่นยนต์ตัวเองขึ้นมา ?
“ผมสร้างหุ่นยนต์ ไม่ใช่หุ่นหน้าตัวเอง”
ตั้งใจจะสร้างบริษัทหุ่นยนต์โดยเฉพาะเลยไหม?
“ตอนนี้ยังไม่ได้คิดถึงขนาดนั้น แต่ถ้าถึงได้ก็ดี ก็อยากอยู่เหมือนกัน เพราะจริงๆตั้งใจค่อนข้างมาก ตอนนี้ถึงระดับสร้างมือหุ่นยนต์และจะไปแขนต่อ”
เราใช้วิธีศึกษายังไง ?
“ถามเพื่อนครับ ถามคนรู้จัก หาคอนเนคชั่น แล้วก็มาศึกษาต่อใน YouTube Google เพราะเดี๋ยวนี้มีเรื่องพวกนี้ให้ศึกษาเยอะในอินเตอร์เน็ต”
ภาพยนตร์ของเราก็กำลังจะเข้า
“ตอนนี้จากที่ผมลองไปถามดู คิดว่าน่าจะประมาณปีหน้า แต่ก็ยังไม่มีอะไรชัวร์ ตอนนี้ตัดต่อเสร็จแล้ว ก็เห็นฟุตเทจบ้างประมาณหนึ่ง โอเคดูดี ดูน่าสนุกเลย”
ตื่นเต้นขนาดไหน ?
“คือตื่นเต้นนะครับ อยากเห็นตัวเต็มว่าจะเป็นยังไง ยังไม่ทราบว่าต้องเดินสายโปรโมทไหม อาจจะต้องมีเดินสายต่างประเทศด้วย”
โปรเจ็คจากทางฮอลีวู้ดมีต่ออีกไหม ?
“มีแคสติ้งเข้ามาได้เรื่อยๆ ที่นู่นต้องแคสติ้ง มันยากมาก การแข่งขันสูงมากครับผม เหนื่อยหรือท้อเป็นเรื่องปกติทุกอาชีพอยู่แล้ว มีเรื่องเข้ามาตลอดเวลา ตัวงานไม่มีทางทำให้เราท้อ แต่มันเป็นปัจจัยอื่นมากกว่า”
อย่างงานฮอลิวู้ดต้องสร้างกำลังใจให้ตัวเองเยอะแค่ไหน ?
“คือเราก็ได้กำลังใจจากแฟนคลับและคนรอบข้าง สิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องให้กำลังใจจากตัวเอง ผมค่อนข้างจะต้องฝึกเรื่องภาษามากขึ้น ต่อให้พูดได้แล้วแต่ มันก็ใช่ว่าจะพอ เราต้องพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้หลายภาษาเริ่มสับสน(หัวเราะ)”