“อั้ม อธิชาติ” เลิกลุ้น! 10 ปีแล้ว ยังไม่มีแววมีลูก
มากันที่พระเอกกล้ามแน่นตลอดกาลของสาวๆหลายคนกันดีกว่า สำหรับ “อั้ม อธิชาติ” ในงานเปิดตัวแอปพลิเคชั่น Park2go เห็นว่าพักหลังมานี้ก็ไม่ค่อยจะออกงานสักเท่าไร แต่ก็ยังอัพเดตความหวานคู่ภรรยาคนสวย “นัท มีเรีย” จูงมือกันไปทอดกฐินปลูกต้นฝ้ายถึงจังหวัดน่าน เห็นในภาพกะหนุงกะหนิงปานนั้น หนุ่มอั้มบอกว่าแค่อยากจำลองการจีบสาวแบบคลาสสิคตามประสาชาวล้านนาดูบ้างก็เท่านั้น แหมๆหวานทุกที่ทุกเวลาจริงๆคู่นี้ ส่วนเรื่องของเจ้าตัวเล็กที่ไม่มีวี่แววจะมาให้ได้ชื่นใจสักที เจ้าตัวก็เอ่ยปากรับเลยว่าไม่คาดหวังอะไรแล้ว มีก็ดีไม่มีก็ดี เอาเป็นว่าสู้ๆน๊าพี่อั้ม เดี๋ยวน้องก็มาเองแหละ ขยันทำการบ้านกับพี่นัทบ่อยๆละกัน อิอิ
ถามถึงงานกฐินที่เมืองน่านหน่อย?
“จริงๆเป็นเรื่องของการสืบสานประเพณีอ่ะครับเพราะว่าจริงๆแล้วกฐินก็ไม่ได้เป็นเรื่องของรายได้ มันเป็นเรื่องของการสามัคคีลงแรงกันเพราะว่าการปลูกต้นฝ้ายต้องสละเวลาขึ้นไปก่อน พอต้นฝ้ายโตขึ้นมาเนี่ยเราก็ต้องกำหนดระยะเวลาเก็บ แล้วก็ย้อมด้วยตัวเอง ถือว่าเป็นการทดสอบผู้ร่วมบุญทุกคนให้มีความอดทนครับ”
ทำไมถึงเลือกที่นี่?
“ที่นั่นก็จะมีวัดซึ่งมีครูบาอาจารย์ที่เรานับถืออยู่ คุยกันตั้งแต่เมื่อปีที่แล้วแล้วว่าเราอยากทำกฐินที่มันต้องใช้แรงทุกอย่างเอง ไม่อยากทำอะไรที่พอเสร็จปุ๊บแล้วก็เสร็จ เราอยากทำอะไรที่มันต้องใช้ความพยายามเยอะมาก ตุ๊ที่น่านก็จะบอกว่าจะมีจุดรับกฐิน ซึ่งเป็นวิธีโบราณสมัยก่อน เราจะไม่มีผ้าสำเร็จรูป ก็เลยอยากทำอันนี้ประกอบกับที่จังหวัดน่านมีประเพณีล้านนาดั้งเดิม เราก็จะชวนชาวบ้านทุกคนมาลงแรงช่วยเหลือกัน แล้วเราจะได้เห็นเขามีความสุขในการที่จะได้แสดงความสามารถในแบบที่เขาทำได้”
ยอดเงินเกินกว่าที่คิดไหม?
“จริงๆยอดเงินไม่ได้ตั้งเป้าไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วแต่วันนั้นก็เป็นยอดที่ถือว่าโอเคสามารถไปซ่อมแซมพัฒนาโบสถ์ได้ และก็ไปสร้างหอพระได้ สิ่งหนึ่งที่มันสำคัญวันนั้นมันเป็นการได้สร้างกำลังใจให้กับชาวบ้านต่างๆให้เกิดรายได้กับเขาด้วย”
เพื่อนหลายคนก็ไปสนใจรูปที่ถ่ายกับพี่นัทที่เป็นการทอผ้าเหมือนกับว่าจีบกันใหม่ๆ?
“คือคนที่นั่นเค้าบอกว่าในสมัยก่อนที่ยังไม่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ผู้หญิงก็ต้องทำงานบ้าน ทอผ้า แล้วก็ต้องทอผ้าให้เสียงดังนิดหนึ่งเพื่อให้รู้ว่าเป็นผู้หญิงทออยู่นะ ผู้ชายก็จะขึ้นไปแอ๊วไปพูดคุยเพราะว่าการทอผ้ามันต้องใช้เวลา เราก็เลยคิดว่ามันเป็นความคลาสสิกผู้หญิง สมัยก่อนยิ่งสวยยิ่งทอผ้าดีก็เป็นเสน่ห์ของเขา เราก็ว่ามันน่ารักดี เราก็เลยลองนั่งนึกย้อนว่าถ้าเป็นคนสมัยก่อนมันจะเป็นยังไงนะ”
ได้เกี้ยวพาราสีพี่นัทไหม?
“เค้าก็ไม่ยอมนะครับ เล่นตัวนิดนึงตามประสา”
เป็นเพื่อนเขามาแซวกันเยอะไหม?
“ก็เยอะครับ ผมว่าจริงๆแล้วคนเราในสมัยนี้ก็อยากจะย้อนไปถึงความคลาสสิค”
คนเค้าก็จะลุ้นว่าจะทอลูกติดไหม?
“ก็ลุ้นมา 10 กว่าปีแล้วครับ “
ยังลุ้นอยู่ไหม?
“ก็ไม่ได้โฟกัสเท่าไหร่แล้วนะครับอย่างที่บอกว่าจริงๆมันก็ 10 กว่าปีแล้ว จนคนอื่นมีลูกเตะบอลไปหมดแล้ว”
จริงแล้วเรามีแอพเครียดหรือว่ากดดันบ้างไหม?
“จริงๆแล้วไม่เคยเครียดไม่เคยกดดันเลยครับเพราะว่าเรามองว่ามันเป็นเรื่องของธรรมชาติ ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็แล้วแต่ธรรมชาติมีก็ดีไม่มีก็ดี เป็นหน้าที่ที่ต่างกันคนละแบบ”
แต่ยังไม่ถึงกับถอดใจใช่ไหม?
“ก็ไม่ได้ถึงกับถอดใจครับคงถอดเสื้อผ้าอย่างเดียว (หัวเราะ) หมายถึงว่า เราไม่ได้พยายามจนมันท้อมันเป็นเรื่องของธรรมชาติไม่ได้ตั้งเป้า ไม่ได้พยายามจะมีจนต้องถอดใจ”
มีหยังไปเพิ่งแพทย์อยู่บ้างไหม?
“ก็มีครับ จริงๆก็ต้องบอกว่าพึ่งแพทย์ทั้งหาหมอ ปรึกษา ทานยาจีนปกติครับ”
ทำมาทุกวิธีแล้วเหมือนกัน?
“ทุกวิธีครับ”
ก็ยังสู้กันต่อไป?
“จริงๆมันก็เหลือเวลาสู้อีกไม่นานนะครับช่วงนี้ก็วางลงเยอะแล้ว ไม่ได้โฟกัส ไม่ได้โหมแล้ว”
คือต่างคนก็ต่างรถงานตัวเองเพื่อที่จะมีลูกไหม?
“คือก่อนหน้านี้ก็อาจจะมีตั้งเป้าไปปรึกษาหมอแต่ช่วงนี้ก็ไม่ได้ทำแบบนั้นแล้ว ก็คือไปตามเวลา ไม่มีจริงๆก็ไม่เป็นไรครับ”
กว่าก็ปล่อยไปตามธรรมชาติไป แต่ก็ยังไม่ถอดใจทั้งคู่ใช่ไหม?
“ไม่ได้ถึงกับขั้นถอดใจใช้คำว่าไม่ได้คาดหวัง”
ยังฟิตดีใช่ไหม?
“หมายถึงอะไรนะครับ”
ออกกำลังกาย?
“ก็ดีครับช่วงนี้พี่นัทก็ออกกำลังกายเพิ่มมากขึ้น เขาก็จะมีทีมเพื่อนๆผู้หญิง เขาก็จะ Motivation มากกว่าออกกับเรา ออกกับเราเค้ารู้สึกว่ามันไม่สนุกดูเป็นกรรมกรไปหน่อย”
ย้อนกลับไปที่ตอนน้ำท่วมเห็นมีรูปไปช่วยมีปีนหลังคาด้วย?
“ครับ ตอนนั้นเห็นน้ำท่วมแล้วก็มีหลายๆฝ่ายลงไปทำในสิ่งที่ตัวเองถนัด เราก็เลยไปกับนายกเทศบาลอำเภอเมืองจังหวัดอุบลฯ เอาของไปแจกลุยน้ำท่วมเข้าไปแล้วก็หลังจากนั้นเขาก็บอกว่าที่สำคัญคือหลังจากน้ำลดแล้วเราก็เลยวางแผนเข้าไปทีนึง เห็นว่ามันพังตอนน้ำท่วมจริงๆเค้าก็ทำกันอยู่แล้วเราแค่ไปเสริมไปช่วย ไม่ได้ไปสร้างให้เขาทั้งหลังหรอก ก็ไปดูว่าจริงๆแล้วการสร้างบ้านทั้งหลังมันเป็นยังไง”
ได้เห็นถึงความเดือดร้อนอย่างไรบ้าง?
“บางคนสมมติว่าถ้าบ้านเป็นบ้านไม้เวลาน้ำมามันก็จะพัดพาไปทั้งหลัง น้ำมันท่วมถึง 2 เมตรมันก็ท้วมทั้งบ้านเลย บางคนก็ไม่มีที่อยู่ก็ต้องไปอยู่ที่สถานอพยพ”
หลังจากพี่กี้ สุนัขที่เสียไป ตอนนี้สภาพจิตใจเป็นอย่างไรบ้าง?
“ก็ดีขึ้นนะครับแต่ก็เวลานึกถึงเขามันก็เศร้าอะครับ ฉันเมื่อเช้าเราก็นัดกันไปใส่บาตรให้เขา จริงๆแล้วเราก็เข้าใจว่าชีวิตมันคือการเวียนอยู่แบบนี้ เขาจากไปถือว่าเป็นโชคดีได้เปลี่ยนภพภูมิอาจจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์ เพราะว่าเราเลี้ยงดูเขาดีก็ถือว่าเค้าเป็นสัตว์ที่มีบุญ เกิดมามีคนที่ดูแลที่ดีแต่ว่าพอคิดถึงมันก็ใจหายแหละอยู่กันมาเป็น 10 ปีจะไปที่ไหนเค้าก็ไปทุกที่ไปกองถ่ายอะไรอย่างนี้”
พี่นัทเป็นยังไงบ้างหรือว่าต่างคนต่างก็ยังคิดถึงยังเศร้ากันอยู่?
“ก็ไม่ได้เศร้าถึงขนาดที่ทำอะไรไม่ได้ เราก็เข้าใจถือว่าเป็นจุดดีของเขาเพราะว่าเค้าไปสบาย เขาได้ไปรับบุญ แค่เวลาคิดถึงก็แค่ใจหายแค่นั้นเอง”
ยังจะมีมาเลี้ยงใหม่ไหม?
“ยังครับคงอีกสักพักนึงเพราะว่าเราเองก็ยังคิดถึงเขาอยู่ แล้วก็มองว่าเวลามีสัตว์เลี้ยงเข้ามาเราก็ต้องดูแลเขาให้เต็มที่ถ้าเกิดเราดูแลเขาไม่ดีเราก็จะสงสารเขา”