“หมอเจี๊ยบ” รับอยากแต่ง “เดียร์” แต่ต้องรอให้กฏหมายรองรับก่อน
เรียกได้ว่า “หมอเจี๊ยบ ลลนา” สร้างบ้านหลังใหญ่จนหลายคนแซวว่าบ้านหลังนี้ใช้เป็นเรือนหอรอแต่งแฟนสาว “เดียร์ บุศรา” หรือเปล่า โดยล่าสุดได้เจอ “หมอเจี๊ยบ” จึงต้องคว้าตัวมาอัปเดตเรื่องบ้าน และถามถึงแพลนวิวาห์กับแฟนสาวว่า
อัพเดทเรื่องบ้านหน่อย
“ตอนนี้ประมาณ 50% แล้วค่ะ ก็ถือว่าเร็วกว่ากำหนดนิดนึง เพราะเขามีแผนงานออกมาเลยว่าเดือนนี้ต้องได้กี่เปอร์เซ็นต์”
มีปัญหาอะไรบ้างมั้ย
“มีปัญหาเรื่องไม่มีเงินทำสวนค่ะตอนนี้ (หัวเราะ)”
ไม่ได้มีปัญหากับผู้รับเหมาเหมือนที่คนอื่นเขาโดนกันใช่มั้ย
“ไม่มีค่ะ ถือว่าโชคดีมากจริงๆ ที่เราได้ผู้รับเหมาที่ดีมาก ก็รู้สึกว่าดีใจที่ได้เลือกทั้งคนออกแบบและผู้รับเหมารายนี้ เพราะสมัยก่อนก็เคยเจอกับตัวเองเหมือนกันเรื่องผู้รับเหมาไม่เก็บงานนั่นนี่ แต่พอวันนี้รู้สึกดีมากที่เขาทำทุกอย่างโปร่งใสและเป็นไปตามขั้นตอน รายงานเราทุกวัน”
มีเรื่องงบบานปลายหรือยัง
“ตอนนี้ติดปัญหาเรื่องงบทำสวนนี่แหละที่ยังไม่มี (หัวเราะ) แต่งบสร้างบ้านมีแล้ว เพราะเอางบทำสนามหญ้ามาโปะ ตอนนี้ก็เลยไม่มีสวน (ยิ้ม) ก็เลยคิดว่าต้องเงินมาปูสนามหญ้าเองก่อน (หัวเราะ)”
มีของที่เราอยากได้ทุกวันมั้ย
“มันก็ไม่ได้อยากได้ทุกวัน คือเราคิดไว้อยู่แล้วว่าต้องมีอะไรบ้าง แต่เรายังไม่รู้ราคา คือก็คิดคร่าวๆ ว่าน่าจะราคานี้ แต่เอาจริงๆ มันมากกว่านั้นนิดนึง เราก็ไม่เป็นไรนิดนึงๆ แต่พอหลายๆ อย่างรวมกันค่าสวนก็หมดเลย”
ตั้งงบไว้เท่าไหร่
“ไม่อยากให้เกินไปเยอะ ก็ถ้ายังไม่มีค่าทำสวน ก็ค่อยๆ เก็บใหม่ สวนก็คงเอาแค่สนามหญ้าไปก่อน”
20 ล้านถึงมั้ย
“ตอนนี้ยังไม่ถึงขนาดนั้น”
แต่พอเห็นบ้านเป็นรูปเป็นร่างเราก็อยากสู้ต่อใช่มั้ย
“ใช่ เพราะเจี๊ยบรู้สึกว่าบ้านเป็นสิ่งที่เราอยู่ทุกวัน คือเจี๊ยบเป็นคนที่ถ้าเลือกแล้วก็อยากใช้ของดีๆ ไม่ใช่ต้องใช้ของแพงนะ แต่ใช้ของดี ไม่ใช่ว่าใช้แล้วเปลี่ยน ไม่อยากให้เป็นปัญหานั้น ก็เลยจะเน้นอะไรที่เราใช้แล้วทนนานและคุ้มค่ากับระยะเวลาที่เราอยู่ เพราะเจี๊ยบไม่ได้คิดว่าจะอยู่บ้านนี้ 2 ปีแล้วขาย ก็คิดว่าจะอยู่จนแก่ ก็เลยคิดว่าเราควรจะลงทุน เพราะตอนเด็กๆ ก็เคยอยู่บ้านพ่อแม่มาก่อน เราก็จะเจอปัญหาเรื่องปลวก เรื่องน้ำรั่ว แล้วพอเรามีโอกาสได้สร้างบ้านตัวเองเรื่องอะไรที่เราเจอมาตั้งแต่เด็กเราก็ไม่อยากเจออีก เราก็เต็มที่กับพวกระบบพวกนี้เลย”
ไม่มีปัญหากับผู้รับเหมา แต่เริ่มมีเรื่องทะเลาะกับคนข้างตัวหรือยังเรื่องสร้างบ้าน
“ก็มีบ้าง เพราะตอนนี้ของเล่นเจี๊ยบบางชิ้นยังไม่ได้รับอนุญาตให้เอาเข้าบ้าน (หัวเราะ) คือตอนแรกจะเอาไปวางข้างๆ หิ้งพระ เขาก็บอกว่ามันไม่ดี จะเอาหุ่นตัวใหญ่ๆ ไปวางข้างพระได้ยังไง เราก็คิดว่าเหมือนอารักษ์ขาไง ตอนแรกวางข้างบันได แต่คนเดินมาเห็นตกใจตลอดเลย เพราะมันตัวเท่าคนเลย แล้วจะเอาไปวางข้างๆ พระก็กระไรอยู่ แต่มันก็ไม่มีที่แล้วไง เขาก็เลยบอกว่าเอาไว้ที่บ้านเดิมเถอะ นี่ยังมีอีกตัวนึงไซด์ใหญ่เหมือนกัน ยังหาที่ลงไม่ได้เลย (ยิ้ม)”
แต่เราก็ยอมเขาใช่มั้ย
“ก็ยอม แต่รอบ้านเสร็จก่อนนะเดี๋ยวอาจจะแอบไปวางไว้ตรงไหน (หัวเราะ)”
ของเราเยอะมั้ย
“คือเราแบ่งกันเป็นโซน คือเขายกห้องนอนไว้ เผื่อเจี๊ยบอยากเอาอะไรไว้ในห้องนอน ส่วนห้องทำงานตอนแรกก็จะให้เป็นห้องทำงานเขา แต่เจี๊ยบจะยึดเองเอาของเล่นไปเก็บในห้องทำงานทั้งหมด ทีนี้ก็จะมีโซนออฟฟิศของเขา ซึ่งเราก็โอเค เพราะจริงๆ ของเจี๊ยบก็เยอะนะ ของเขาก็เยอะ แต่ของเล่นเราเยอะกว่า มันก็เลยไม่พอกับโซนที่เขาเอาไว้ให้ (หัวเราะ) เราก็เริ่มลามไปมุมของเขา เขาก็บอกว่าอุตส่าห์ทำบ้านสวยๆ เขาก็ไม่อยากให้บ้านออกมาเกรียน เพราะของเล่นเรามันคนละสไตล์กับของเขาเลย”
คาดว่าจะเสร็จเมื่อไหร่
“พวกสถาปัตต่างๆ โครงสร้างน่าจะเสร็จสิงหาคมปีหน้า แต่อินทีเรียยังไม่รู้เมื่อไหร่”
บ้านเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว เรื่องแต่งจะตามมาเลยมั้ย
“ยังๆ (ยิ้ม) นี่ก็หมดตัวเลยนะเนี่ย ขอเก็บเงินก่อน (หัวเราะ)”
ถือเป็นเรือนหอเลยมั้ย
“ขอสร้างสวนให้เสร็จก่อนด้วยนะ สวนยังไม่เสร็จเลย เดี๋ยวคอร์กี้เลอะดิน ยังไม่มีเงินปูหญ้าเลย (ยิ้ม)”
ตกลงยังมีแพลนงานแต่งใช่มั้ย
“เจี๊ยบก็อยากนะ ก็รอพร้อมก่อน อยากให้มีกฎหมายมารองรับ คือถ้ามีกฎหมายรองรับออกเมื่อไหร่ ถ้าสมมุติออกพรุ่งนี้ก็แต่งพรุ่งนี้เลยนะ”
ไม่ไปแต่งเมืองนอกที่เขามีกฎหมายรองรับแล้วล่ะ
“แต่มันไม่รองรับที่นี่ไง (หัวเราะ) คือสำหรับคู่เจี๊ยบเราไม่ได้แต่งกันเพื่อที่จะประกาศว่าฉันมีความรักต่อกันมากมายอะไรนะ แต่เจี๊ยบคิดว่ามันเป็นสิทธิที่เราควรจะได้รับ อย่างต่างๆ ที่เราทำมามันมีปัญหาจริงๆ จากที่แต่ก่อนเราไม่เคยมาศึกษาเรื่องนี้ เรารู้สึกว่ามันไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่พอวันนึงที่เราใช้ชีวิต เราเริ่มโตขึ้นมันก็มีผล อย่างเช่นเรื่องการกู้เงิน จะไปกู้บ้านมันก็มีปัญหาว่ากู้ในฐานะอะไร แทนที่เจี๊ยบจะได้สิทธิตามที่เจี๊ยบทำงานมา คือไม่ใช่คู่สามีภรรยากันก็ใช้สิทธิด้วยกันไม่ได้ ก็ถูกตัดมาว่าใช้ในส่วนนั้นไม่ได้ อย่างเช่นทำประกันชีวิตด้วย นี่ยังโชคดีที่มีบางเจ้าเขารองรับ เพราะไม่อย่างนั้นเวลาเสียชีวิตแล้วจะยกให้ใครล่ะ (หัวเราะ) เรื่องพวกนี้ก็จะถูกซักเยอะ มันน่าจะมีสิทธิที่รองรับตรงนี้ให้สามารถใช้ชีวิตได้เหมือนคู่ชายหญิงปกติ เพราะเจี๊ยบว่าวันนี้มันไม่ได้มีแค่คู่ชายหญิงแล้ว ความรักมันเกิดขึ้นได้กับทุกคน และมันเป็นการวางแผนในอนาคตว่าสมมติเราตายไปเขาจะอยู่ยังไง เขาก็เป็นคนที่เรารักเหมือนกัน หรือการตัดสินในเรื่องของการรักษาพยาบาล เขาต้องให้ญาติสายตรงในการตัดสินใจ แต่คู่ที่เป็นแบบนี้เขาไม่ได้จดทะเบียน เพราะมันยังไม่มีอะไรรองรับ จะไปตัดสิทธิริดรอนได้ยังไงในเมื่อเขาเป็นคนที่ใช้ชีวิตกับเรามาตลอด เจี๊ยบว่าเรื่องนี้มันสำคัญ และเจี๊ยบก็เป็นประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่ไม่ได้ทำตัวเสียหายอะไร แต่ในสิทธิพวกนี้เจี๊ยบได้น้อยกว่าคนอื่น เจี๊ยบก็เลยอยากจะได้สิทธินั้นบ้าง”
ถ้ากฎหมายมันไม่ออกมา เราจะไม่แต่งเลยหรือยังไง
“ไม่หรอก เจี๊ยบว่าทุกวันนี้สังคมไทยมันเปิดกว้างมากขึ้นนะ เจี๊ยบเชื่อว่าอีกไม่นานก็น่าจะมีข่าวดีเร็วๆ นี้ หมายถึงว่าเขาจะออกกฎหมายนะ (หัวเราะ) เจี๊ยบเชื่อว่าอีกไม่นานถ้าทุกอย่างมันเข้าที่เข้าทาง เขาแก้ปัญหาทุกอย่างได้ เขาก็อาจจะนำไปพิจารณาและนำไปแก้ไขได้ เจี๊ยบเชื่อว่าวันนี้เราก็เปิดกว้างไปมากแล้ว”