“ใบเฟิร์น” รับเครียดกับบทละครอินจนต้องปรึกษาจิตแพทย์

-- โฆษณา --

เรียกได้ว่าละคร “ใบไม้ที่ปลิดปลิว” ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และตอนจบก็เป็นที่พอใจแก่คนดู คว้าเรตติ้งสูงสุดไปครอง ซึ่งล่าสุดนางเอกสาว “ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก” ได้ออกงานอีเว้นท์จึงต้องถามไถ่เรื่องนี้ เพราะตอนนี้เธอคือขวัญใจสาวสองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งอัปเดตอาการ หลังเจอบทละครหนักๆ ทำให้อินจมอยู่กับตัวละครนั้น จนต้องเข้าพบจิตแพทย์อยู่เรื่อยๆว่า

ช่วงนี้งานเยอะมั้ย ?
“พอปิดกล้องละครก็ดีขึ้นแล้วค่ะ ไม่หนักหนามาก”

ตอนนี้เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อนิราเกิดขึ้นเยอะมาก
“หรอคะ ยังไม่เห็น แต่เฟิร์นก็ไม่กลัว มันน่าจะเป็นช่วงหนึ่งของกระแสละครมากกว่า”

ยังไม่มีใครมาฟ้องเรื่องโดนปลอมเฟซบุ๊ก
“ไม่มีค่ะ”

ดาราหลายคนกลัวว่าจะเอาไปทำเรื่องไม่ดี
“เฟิร์นว่า เฟซบุ๊กเฟิร์นที่เล่นเป็นออฟฟิศเชี่ยว ก็มีหลักๆอยู่แล้ว แล้วก็มีมาสักพักแล้ว เฟิร์นเชื่อว่าแฟนๆน่าจะรู้”

มีคนปลอมเป็นเราเยอะไหม
“ช่วงเมื่อหลายปีที่แล้วก็มีเฟซบุ๊ก มีทวิตเตอร์เล็กน้อย แต่พอแจ้งไปแล้วว่าอันไหนเป็นออฟฟิศเชี่ยวทุกอย่างก็ดูโอเคนะ เข้าที่เข้าทาง”

พราะกระแสคนอินละครด้วยไหม
“ก็ดีใจนะคะ บางทีเพื่อนที่สนิทกันยังบอกเลยว่าจะเอาไปตั้งเป็นชื่อเกม หนูก็ดีใจค่ะ”

เช็คโซเชียลบ่อยไหม
“เช็คค่ะ ตามอ่านทวิตเตอร์และเฟซบุ๊กตลอด”

เห็นกระแสตอนจบหรือยัง
“บางคนก็อยากให้จบแบบนั้น แบบนี้”

ที่บอกว่าจะจบ 4 แบบ เอามารวมกันหมดเลยไหม
“เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นอย่างแรกเลยที่ถ่าย”

เรตติ้งตอนจบพุ่งเลย
“ก็ดีใจ เรื่องนี้เฟิร์นไม่กล้าเดาเลยว่าความคิดของผู้ชมจะเป็นยังไงก็ได้แต่อ่าน ก็ดีใจค่ะ เหนือความคาดหมายทุกอย่างค่ะ”

เข้าไปอยู่ในใจของผู้ชมแล้ว
“ก็ดีใจค่ะ คือมันไม่ใช่เฟิร์นคนเดียว มันมีทั้งพี่เจี๊ยบ ผู้กำกับ รู้สึกว่าบทละครมันส่งผลแล้ว บางคนก็เล่าสมัยอดีตของตัวเอง ว่าสมัยมัธยมโดนคุณพ่อทำร้ายยังไง ไม่เข้าใจยังไง เฟิร์นว่า อันนี้ก็เป็นอีกจุดหนึ่งของความสำเร็จของละคร”

ตอนจบเรารู้ตอนไหน
“ตอนออนแอร์”

มีภาค 2 ไหม
“ไม่มีหรอก”

เราไม่ตาย
“ให้หนูไม่ตายบ้างดีกว่า”

ผู้กำกับยังไม่คุยเลยใช่ไหม
“นางน่าจะไม่ทำแล้วนะ นางบอกว่าเรื่องนี้ยากมาก”

หายกดดันตัวเองหรือยังเห็นบอกก่อนหน้านี้ร้องไห้
“ตอนนี้สบาย สุขภาพจิตดีมาก แฮปปี้ มีความสุข”

อะไรที่ทำให้เราไปพบจิตแพทย์ในตอนนั้น
“เฟิร์นไปพบมาแล้ว ได้คำตอบประมาณว่า สมมุติเราอยู่ในอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งมากเป็นพิเศษ อย่างเช่น ความหดหู่ เสียใจ คนเรามันมีพาร์ทนั้นอยู่ในตัวอยู่แล้ว เราก็แค่ต้องดึงตัวเองกลับมา เรากลับมาบาลานซ์ทุกอย่างในชีวิตให้โอเค”

ต้องกินยาไหม
“ไม่เคยกินยาเลยค่ะ แค่ทำความเข้าใจ”

ใช้เวลานานไหม
“ตอนนั้นเราก็รู้สึกตอนไปถ่ายว่าทำไมเสียใจจัง แต่ความจริงแล้วเพิ่งรู้ว่าเป็นเรื่องธรรมดามาก ถ้าเราเอาตัวไปอยู่กับอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งมากเกินไปก็ดึงตัวเองกลับมา”

ยังไปหาหมออยู่ไหม
“ก็ยังมีนัดอยู่เรื่อยๆค่ะ”

แสดงว่ายังไม่ได้ดีขึ้นร้อยเปอร์เซ็นต์
“สำหรับเฟิร์นพอเข้าใจจุดนี้ เฟิร์นเคลียร์แล้วเฟิร์นหายเลยนะ การถูกบำบัดก็เหมือนการทำให้ร่างกายเราแฮปปี้ จิตใจเรามีความสุขเหมือนไม่สบายแล้วไปหาหมอทั่วไป”

ได้รับบทหนักๆแล้วจะเป็นแบบนี้ตลอดเลยมั้ย
“สมัยก่อนก็เป็นแต่พอปิดกล้องเราก็หาย แต่เรื่องนี้เฟิร์นอยากเข้าใจมันให้มากที่สุด เผื่อเฟิร์นเล่นแบบนี้อีกในอนาคตเราจะได้จัดการได้กับตัวเองได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน”

ช่วงนี้ต้องเบรกรับบทหนักๆไปเลยมั้ย
“ตอนจบก้านแก้วก็พูดอย่างนี้แหละว่าจะเบรกแล้วก็มาเล่นเรื่องนี้(หัวเราะ)”

คุณหมอได้บอกว่าเราเข้าข่ายเกี่ยวกับโรคซึมเศร้ามั้ย
“ไม่ เขาไม่ได้อยากบอกว่ามันคือโรค เขาอยากให้เราเข้าใจตัวเองในการทำงานของเรามากกว่าแต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้ก็ไม่แน่เหมือนกันค่ะ”

แสดงว่าเราก็กลัวว่าจะมีผลกระทบต่องานในอนาคตเหมือนกัน
“ใช่ เฟิร์นอยากรักษาความเป็นเฟิร์นปกติไว้ด้วยในวันธรรมดาที่อยู่กับคนรอบข้างแล้วแฮปปี้สนุกสนาน วันนี้มันอาจจะไม่ได้หนักหนาขนาดนั้นแต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้มันอาจจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ถามว่ากลัวมั้ยที่จะส่งผลในระยะยาวถ้ารับบทหนักอีก ตอนนี้ไม่กลัวแล้วค่ะ เข้าใจแล้วว่ามันเกิดจากอะไร รับมือได้สบายเลย”

ต้องพักบทหนักไปเลยมั้ย
“คือเฟิร์นไม่ได้แพลนเรื่องงานอะไรต่อไปขนาดนั้น แค่รักษาสิ่งที่มีอยู่ก็พอแล้ว”

ถ้ามีบทหนักติดต่อมาอีก จะกล้ารับอีกมั้ยเพราะอาจส่งผลต่อสุขภาพจิตได้อีก
“ก่อนหน้านี้อาจจะกลัวแต่ตอนนี้ไม่เลยค่ะ อย่างที่บอกคุยมาล่าสุดเข้าใจตัวเองเยอะขึ้นมากๆ เห็นแนวทางในการใช้ชีวิต วิธีเลือกคิดมันมีความสุขค่ะ”

รู้สึกท้าทายตัวเองมากขึ้นกับบทบาทงานแสดง
“ท้าทายนะ เฟิร์นว่าการติดตัวละครมันเป็นจุดหนึ่งของนักแสดงหลายๆคน ควรจะก้าวข้ามและเรียนรู้ไปว่าจะจัดการกับมันยังไง”

คนมองว่าละครจบแล้ว เราเตรียมเดินสายรับรางวัลในปีหน้าได้เลย ในใจมีลุ้นมั้ย
“ไม่เลยค่ะ มันเกินฝันแล้วใครจะไปคิดว่าในใจของทุกคนบอกว่าเข้าใจและยอมรับนิรา แค่นี้มันคือรางวัลแล้ว เราเช็กคอมเม้นต์ทุกวัน วันนี้นอกจากไม่โดนด่าแล้ว คนยังเข้าใจนิรา มีคนบอกว่าเข้าใจทุกรีแอ็กของนิราเลย แค่นั้นมันก็โอเคจบแล้วค่ะ เฟิร์นไม่ได้คาดหวังเรื่องได้รางวัลเลย วันนี้ได้รับกระแสตอบรับจากแฟนละคร แค่นี้คือรางวัลแล้ว เดินยิ้มหน้าบานเป็นกระด้งอยู่ทุกวันเลยค่ะ (ยิ้ม)”

จะมีบทอะไรที่พีคอีกมั้ยหรือพักก่อน
“มันบอกไม่ได้เฟิร์นไม่เคยแพลนเลยว่าจะต้องรับบทพีคไม่พีค โหดไม่โหด ถ้ามันเข้ามาเดี๋ยวก็เข้ามาเองค่ะ”

บทสรุปทำให้สาวข้ามเพศประทับใจไปด้วย เป็นการให้โอกาส ปกติละครสาวสองมักจะตายทุกเรื่อง
“มันไม่ใช่แค่สาวสอง มีผู้หญิงผู้ชายปกติที่หดหู่แล้วไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง เฟิร์นว่าตอนจบของเรื่องนี้มันก็ทำให้ทุกคนฮึกเหิมขึ้นมาได้เป็นข้อดีของละคร”

ตอนนี้เราเข้าไปอยู่ในใจของสาวสอง
“ดีใจค่ะ รู้สึกขอบคุณ ขอบคุณไปที่บทละครของพี่เจี๊ยบ ผู้กำกับฯและหลายๆคนมากกว่า”

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here