-- โฆษณา --

เรียกว่าตอนนี้อะไรก็หวานฉ่ำไปหมด หลังจากที่นักร้องหนุ่มเสียงดี “กวาง ศิริศิลป์ โชติวิจิตร” หรือ “กวาง AB Normal” ได้ออกมายอมรับกับว่ากำลังศึกษาคุยกับ “น้ำหวาน พิมรา เจริญภักดี” หรือ “น้ำหวาน ซาซ่า” มาตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทำให้หลายๆคนสงสัยว่า ทั้งคู่แอบคนซ้อนกันหรือเปล่า เพราะโดนเพื่อนอดีตแฟนทอมของ น้ำหวาน ที่คบกันมา 15 ปี ออกมาแฉว่าทั้งคู่คบซ้อน งานนี้ทั้งคู่ควงกันมาออกงานเลยไปถามถึงประเด็นนี้สักหน่อยดีกว่า

อีเว้นต์แรกเลย ที่เปิดตัวคบกัน ?
น้ำหวาน :
“จริงๆ วันนี้เราก็มาทำงานด้วยกัน เพราะเราเป็นสายกิน เขาเป็นสายเที่ยว ก็ตรงกับคอนเซปต์งาน”

ตอนนี้สถานะชัดเจนขึ้น ?
น้ำหวาน :
“ก็อย่างที่พี่กวางพูดไป เราอยู่ในช่วงที่เราคุยกันอยู่ ส่วนจุดเริ่มต้น ต้องบอกก่อนว่าจริงๆ เรารู้จักกันมาตั้งแต่เราเป็นศิลปินอยู่ค่ายเดียวกัน ไม่ต้องนับปีนะคะ มันนานมากแล้ว จริงๆ ด้วยสายงานมันวนมาเจอกันยาก เขาเป็นสายร็อก เราเป็นสายป็อบ แต่หลังๆ ก็มีโอกาสได้เจอกันตามงานบ่อยๆ เลยได้เจอกัน”

เริ่มจีบกันตอนไหน ?
น้ำหวาน :
“จริงๆ พอเจอกัน เราก็ทักทายเพราะคนรู้จักกันอยู่แล้ว”

อะไรทำให้สปาร์ครักขึ้นมา ?
น้ำหวาน :
“คือถ้ามันเป็นเรื่องฟีลลิ่งมันก็ตามไม่ได้ ว่าอะไรเมื่อไหร่ มันเป็นไปเองตามปกติ”

กวางเข้าไปจีบเขาก่อนไหม ?
กวาง :
“เหมือนที่กวางเคยพูดรอบที่แล้ว เหตุการณ์มันไม่ได้เกิดจากการจีบ มันคือเราคุยกันแบบเป็นเพื่อน เป็นพี่น้องกัน วันนั้นที่ถามว่าไปสปาร์คกันตอนไหน ตอบไม่ได้เหมือนกัน หลังจากที่เคยคุยกันแล้ว มันก็เกิดคำถามนี้กลับเราสองคนเองเหมือนกัน ว่าสรุปไปสปาร์คกันตอนไหน”

ความรู้สึกมันเปลี่ยนจากเพื่อนเป็นอย่างอื่น ?
น้ำหวาน :
“จริงๆ ต้องบอกว่า เวลาที่คุย คุยกันกระทั่งเขาไปเดทกับใคร ไปดูหนังกับใคร จีบใครอยู่ เราก็ค่อนข้างรู้ความเป็นไปของเขา จุดเริ่มต้นเรามาจากแบบไหน”

คือต่างคนต่างโสด ?
น้ำหวาน :
“หวานต้องบอกก่อนว่า หวานมีเพื่อนที่สนิทกันมาอยู่นานแล้ว จริงๆ ถึงไม่ได้เปิดตัว แต่ทุกคนก็น่าจะทราบความเคลื่อนไหวกันดี ส่วนกวางเขาก็ไปจีบสาว ไปเดท ก็มาเม้าท์ให้ฟังบ้าง”

แต่มีคนบอกเราคบซ้อน ?
น้ำหวาน :
“ถ้าเรากำลังจะพูดถึงเรื่องอดีต มันจบไปแล้ว ผ่านไปแล้ว แล้วที่สำคัญการที่มานั่งเจาะลงดีเทลถึงเรื่องอดีต มันไม่เกิดประโยชน์กับฝ่ายไหนเลย ทั้งหวานและเพื่อนหวาน ฉะนั้นหวานขอไม่ลงรายละเอียด และขอพี่ๆจริงๆ ว่าจะไม่แตะต้องประเด็นนี้ เพราะมันเป็นเรื่องค่อนข้างเซนซิทีฟค่ะ ไม่ว่าจะพูดอะไรไป มันก็จะเกิดประเด็นใหม่ๆขึ้นมา และในทุกๆความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน หรือคนรัก เมื่อมันเกิดขึ้นและจบลงไป สิ่งที่เราได้ในทุกครั้งคือประสบการณ์ ได้เรียนรู้ สิ่งไหนที่ดีเราก็ทำให้ดียิ่งขึ้น ในความสัมพันธ์ครั้งต่อไป แต่ถ้าสิ่งไหนไม่ดีเราก็เรียนรู้ที่จะไม่ทำซ้ำอีก”

แต่กวางรู้ใช่ไหมว่าน้ำหวานเคยมีเพื่อนสนิทที่คุยกันอยู่ ?
กวาง :
“อย่างที่บอก เราคุยกันในฐานะเพื่อน พี่ ซึ่งกวางยังไปอวดเขาเลยว่าเราไปจีบคนอื่นๆอยู่ เราบอกไม่ได้ว่าเราไปเริ่มคุยกันแบบแฟน หรือคนรู้ใจกันตอนไหน แต่เรื่องนี้มันอาจจะวุ่นวายเพราะกวางเองด้วย กวางต้องออกมารับผิดชอบด้วย กวางอาจจะพูดผิดไป ผิดเวลาหรือเปล่า วันนี้ขอรับเรื่องพวกนี้ให้เป็นความรับผิดชอบของกวาง ขอโทษกับทุกๆ คน และเรื่องนี้อยากจะขอให้เป็นบทเรียนกับชีวิตคู่ในอนาคตครับ ขอให้พี่ๆ ทุกคนช่วยให้เป็นกำลังใจเราแล้วกัน”

ที่คนมองว่ากวางเป็นต้นเหตุทำให้หวานเลิกกับคนเก่า ?
น้ำหวาน :
“ถ้ามันเป็นเรื่องบุคคลที่สามหรือเรื่องอดีต หวานขออนุญาตไม่กล่าวพาดพิงหรือไม่อยากจะพูดถึงเขาค่ะ เพราะเขาไม่ใช่คนที่อยู่ในสื่อ ไม่อยากให้เขามีชื่ออยู่กับเรื่องใหม่ๆ ในชีวิตเรา”

แต่คนรอบตัวเขาพยายามที่จะขุดคุ้ยเรื่องราวในอดีตของเราขึ้นมา ?
น้ำหวาน :
“หวานว่าอยากเรียกว่าขุดคุ้ยดีกว่าค่ะ เรียกว่าเขาก็คอมเมนต์อยู่ในพื้นที่ส่วนตัวของเขานะคะ จริงๆ มันก็เป็นสิทธิ์ของเขาที่ไปห้ามอะไรไม่ได้”

มีผลกระทบต่อคู่เรามากแค่ไหน ?
น้ำหวาน :
“หวานว่าผลกระทบมันอยู่ที่จิตใจมากกว่านะคะ มันปฏิเสธไม่ได้หรอกเวลาที่เราเจอคนด่าคนว่าหรืออะไร แว๊บแรกคือเครียด แว๊บสองคือนอยด์ แว๊บสามกลุ้มใจ แต่ประเด็นคือเรามีเรื่องที่ต้องรับผิดชอบอีกหลายอย่างค่ะ เรามีอะไรหลายอย่างที่ต้องทำ และงานเรามันต้องยิ้มค่ะ หากเราเอาเรื่องนี้มาใส่ใจมันก็ไปต่อไม่ได้ ทุกคนก็ต้องมีทั้งคนชอบและคนว่า อีกอย่างคอมเมนต์ก็อยู่ในพื้นที่ของเขาด้วยค่ะ”

อยากให้ทางนู้นหยุดขุดคุ้ยไหม ?
น้ำหวาน :
“หวานไปห้ามเขาไม่ได้ มันก็เป็นพื้นที่ของเขา”

เราไม่ได้คุยกับเพื่อนสนิทคนนี้แล้วใช่ไหม ?
น้ำหวาน :
“ค่ะ ไม่ได้คุยแล้วค่ะ”

พอมีกระแสข่าวเกิดขึ้น คู่เราได้คุยหรือให้กำลังใจกันไหม ?
กวาง :
“แน่นอนครับ ไม่ใช่แค่กวางนะ ต้องขอขอบคุณคนรอบๆ ตัวเราด้วย ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนๆ คุณพ่อ คุณแม่ หรือใครก็ตามที่อยู่รอบๆ ตัวและให้กำลังใจเรา ต้องขอบคุณมากๆ จริงๆ ทั้งหวานและกวางเองตอนนี้ก็ต้องการกำลังใจเหมือนกัน ต่างคนต่างให้กำลังใจกันด้วย”

น้ำหวาน : “จริงๆ พี่ๆ นักข่าวทุกคนอาจจะมีที่ก่อนหน้านี้โทรมาสัมภาษณ์บ้าง หวานอยากจะพูดทีเดียวพร้อมกันไปเลย ต้องขอบคุณมากๆ ที่ส่งกำลังใจมาให้นะคะ เวลาที่เจอกันก็พูด สู้ๆ นะ ฝากส่งกำลังใจมาทางพีอาร์โดยตรง ได้รับทุกกำลังใจนะคะ ทุกคอมเมนต์ก็ได้อ่าน มันสร้างกำลังใจให้เรามีแรงที่จะทำชีวิตข้างหน้าให้ดีต่อไป เพื่อจะได้โฟกัสในเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว”

สถานะตอนนี้ทั้งคู่เรียกว่าอะไร ?
กวาง :
“เอายังไง (หันไปถามน้ำหวาน)”

น้ำหวาน : “เขาเป็นคนดีค่ะ เป็นคนที่หวังดีต่อกัน และเป็นคนที่เราคุยๆ กันอยู่จริงๆ นะคะ”

เรียกแฟนได้ไหม ?
น้ำหวาน :
“เดี๋ยวไปตกลงกันก่อน ให้อีเว้นต์หน้ามาตอบนะ (หัวเราะ)”

มีการขอเป็นแฟนแบบเป็นทางการไหม ?
กวาง :
“ไม่มี”

น้ำหวาน : “หวานว่าพอเราอายุโตขึ้น มันก็ไม่ได้มีมานั่งแบบ สวัสดีจ่ะ เป็นแฟนกันเถอะ อะไรแบบนี้”

แต่เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่ารักจริงหวังแต่ง ?
น้ำหวาน :
“ต้องขอบคุณก่อน เพราะเหมือนเขาก็ให้เกียรติเรา ให้เกียรติครอบครัวเรา ที่คบกันแล้วแสดงเจตนาดี มีเป้าหมาย ต้องขอบคุณมาก แต่เรื่องมันเป็นเรื่องอนาคตเนอะ ถ้ามันมีอะไรจริง พี่ๆ ต้องมาอัพเดตกันอีกรอบ”

ครอบครัวเราว่าอย่างไรบ้าง ?
น้ำหวาน :
“ถ้าถามถึงเรื่องข่าวที่เกิดขึ้น ครอบครัวก็คอยซัพพอร์ตเราเต็มที่ค่ะในแง่จิตใจเรา เขาไม่ได้ถามอะไร คุณพ่อคุณแม่เป็นกำลังใจสำคัญนะคะ ท่านเข้าใจเรา เราเป็นคนที่มีทั้งด้านดีและไม่ดีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ก็มีหน้าที่ซัพพอร์ตเราและพี่กวาง ก็สนิทกันค่ะ”

แสดงว่าคุณแม่ไฟเขียวใช่ไหม ?
กวาง :
“ก็เขียวมั้งครับ”

น้ำหวาน : “คือคุณแม่หวานค่อนข้างดุ จริงๆ หวานไม่ค่อยจะมีเพื่อนผู้ชายเท่าไหร่ เวลามีทีก็พาไปรู้จัก ต้องเข้าตามตรอกออกตามประตู แม่ก็ให้ดูๆ กันไป ส่วนครอบครัวพี่กวางก็ได้พาหวานไปเจอบ้างแล้วค่ะ”

กวาง : “คุณแม่กวางจะให้อิสระในเรื่องการตัดสินใจอะไรก็ได้อยู่แล้วครับ แต่เราก็อยากให้เขาเห็นด้วยว่าเราทำอะไรกันอยู่ ก็เลยพาไปรู้จักกันบ้างครับ”


เรียบเรียง ชานนท์ พิทักษ์ตันสกุล

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here