หลังจากมีข่าวออกมาว่าเป็นบุคคลล้มละลายทำเอาแฟนคลับเป็นห่วงกันอย่างหนัก สำหรับ “สมรักษ์ คำสิงห์” ล่าสุดมีโอกาสเจอลูกสาว “เบสท์ รักษ์วนีย์ คำสิงห์” ก็ขอเข้าไปถามถึงเรื่องนี้สักหน่อยว่าทราบข่าวแล้วหรือยังและคุณพ่อถูกปลดออกจากราชการไหม แล้วเหตุจริงๆเพราะถูกหลอกใช้หรือเปล่า
ทราบเรื่องคุณพ่อแล้ว ?
“ตอนแรกก็ตกใจ แต่ก็เหมือนไปเคลียร์แล้ววันนี้ก็ออกไปเข้ากรมทหาร เราก็เคยได้ยินมาว่ามีปัญหาในเรื่องนี้ แต่ไม่คิดว่าจะถึงขั้นเป็นข่าว”
คุณพ่อออกจากราชการไหม ?
“คุณพ่อไม่ได้ออกจากราชการ แต่ทางกรมทหารเรือบอกว่าการที่จะออกก็จะทำให้กรมเสียชื่อเสียง แต่ในกรณีนี้มันเป็นเรื่องส่วนตัวของคุณพ่อไม่ได้กระทบกรม”
ตอนนี้คุณพ่อเป็นยังไง ?
“ตอนนี้คุณพ่อก็ยังปกติ ไม่ได้ออก ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ตอนแรกก็คุยกันกับอีกฝั่ง แต่อยู่ๆเขาก็ปล่อยข่าวมาเลยว่าล้มละลาย แต่ไม่รู้ว่าต่อจากนี้จะล้มหรือจะคุยต่อหรือจะยังไง พอปล่อยข่าวมาแล้วเขาก็โทรมาขอโทษ โทรมาเจรจา แต่คุณพ่อบอกว่าปล่อยข่าวไปก็ไม่ได้บอกเราเลย”
เราพอรู้ข่าวแล้วตกใจไหม ?
“ความรู้สึกเราตอนนั้นก็ตกใจ เราไม่รู้ว่าล้มละลายคืออะไร ก็เลยไลน์ถามเพื่อน พอรู้แล้วเราก็ไปถามพ่อ แต่เราก็ยังหารายได้ช่วยครอบครัวได้”
“ส่วนธุรกิจที่ล้มละลายพ่อบอกว่าเป็นธุรกิจที่เขาทำตั้งแต่เรายังเด็ก เรื่องปั๊มน้ำมันของคุณตาคุณยายไม่ได้เกี่ยวข้อง ได้ยินว่าพ่อไปคุณกับทนายว่าสรุปมันยังไง แต่เราก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องอะไรกันแน่”
สถานการณ์ในครอบครัวตอนนี้ยังปกติอยู่ ?
“ถามว่ามันรุนแรงไหมก็รุนแรงที่ข่าวออกไปแล้วครอบครัวก็ช้อตไปนิดหนึ่ง แต่ตอนนี้กลับมาเป็นปกติแล้ว ไม่ได้มีการเสียน้ำตาอะไร แต่ให้กำลังใจกัน แต่ก็มีระส่ำระส่ายบ้างเพราะมันกะทันหัน”
สมรักษ์ล้มละลายตามคำสั่งศาลต้องห้ามเป็นข้าราชการตามกฏหมายคือยังไง ?
“เหมือนที่กรมเขาบอกว่าถ้าจะออกจากราชการต้องทำให้ราชการเสื่อมเสียชื่อเสียง แต่เรื่องนี้พ่อเข้าไปคุยเมื่อเช้าแต่เรายังไม่ได้ถามว่าคุยแล้วเป็นยังไง แต่พ่อพูดประมาณว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของเขาก็จะไปอธิบายให้กรมเข้าใจ”
แล้วเขาคุยกับเจ้าหนี้หรือยัง ?
“กับเจ้าหนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะไปคุยกันยังไง ส่วนเราในฐานะลูกก็ช่วยรับงานทำงาน ตอนเด็กเราก็รับอยู่แล้ว เป็นกำลังหลักให้บ้านอีกแรง เราก็พร้อมเป็นเสาหลักให้ครอบครัว”
ก่อนหน้านี้บ้านเราไม่เคยมีปัญหาเรื่องการเงิน ?
“เวลาเราจะไปไหนคุณพ่อคุณแม่จะซัพพอร์ตเรื่องเงินให้ตลอด ในตอนนี้ถ้าเทียบในเรื่องจำนวนเงินเราสามารถหาเงินได้ในขนาดที่เขาสามารถเอาไปใช้ในเรื่องคดีตรงนี้ได้ แล้วเขาบอกว่าเราเป็นคนหาก็ไม่อยากให้มันกระทบถึงเรา ถ้าปัญหาเกิจากตัวเขา เขาจะรับผิดชอบเอง ถ้าต้องล้มเขาก็จะยอม”
ถามว่าเขาเสียใจไหมคงไม่ ?
“เพราะเรารู้ว่าพ่อเป็นคนยังไง เขาจริงใจและตรงๆมากๆ แล้วเพื่อนเขาหวังร้ายกับเขาเยอะ แล้วมันไม่ได้เกิดจากตัวพ่อเราเอง มันเกิดจากคนที่หวังร้ายกับเรา แล้วเขาทำให้เราเป็นแบบนี้”
หลังจากข่าวออกมาก็มีคนมาถามเยอะ ?
“ส่วนตัวเราไม่ได้รู้ลึกขนาดนั้น ปัญหาที่เกิดขึ้นยืนยันได้เลยว่าพ่อเป็นคนจริงใจกับทุกคน แล้วเราได้คนไม่จริงใจกลับมาผลก็เป็นแบบนี้ แต่พ่อก็ยังสู้และยอมรับ พ่อเราแมนมาก จะเรียกว่าพ่อโดนหลอกก็ได้ ในมุมมองของเราก็โดนเพื่อนหักหลัง”
ที่บ้านเราใช้เงินเยอะไหม ?
“ครอบครัวเราไม่ได้ใช้เงินฟู่ฟ่าเพราะแม่เป็นคนเขี้ยวมาก เป็นเรื่องที่ยากมากถ้าจะใช้เงินฟุ่มเฟือย ขนาดเราเข้ามหาวิทยาลัยแม่ยังบอกว่าต้องขอทุนให้ได้นะถึงได้เรียนมอรังสิต แล้วแม่ก็พยายามกระตุ้นให้เรารับผิดชอบตัวเอง ส่วนคุณแม่ตอนนี้เหมือนจะเครียดมากว่าพ่อ แต่พ่อจะยิ้ม”
เรียบเรียง ชานนท์ พิทักษ์ตันสกุล