-- โฆษณา --

“โอปอล์ ปาณิสรา” ควงสามี “หมอโอ๊ค สมิทธิ์” พร้อมลูกแฝดน้อง ”อลิน-อลัน” ออกงานทั้งทีก็ไม่พลาดอัพเดทพัฒนาการของน้องแฝดหลัง ”โอปอล์” โพสต์น้อง ”อลิน” มักมีคำพูดแปลกๆออกมางานนี้สาเหตุจะมาจากอะไรต้องไปฟัง 

เป็นอย่างไรบ้างเที่ยวหัวหินมา?
หมอโอ๊ค : “โหอยู่ในน้ำมากกว่าบนบกอีก”
โอปอล์ : “เป็น 3 วันที่ปอโดนแดดเยอะ ปอตั้งแต่ก่อนท้องจนลูกจะ 3 ขวบ พี่โอ๊คเขาจะสนับสนุนให้ทำกิจกรรมเอ้าท์ดอร์เพราะพี่โอ๊คเป็นคนไม่ดำไง เขาก็ไม่เข้าใจเลยว่าการแค่โดนไอแดดแล้วดำเลยเป็นอย่างไร ปอก็ต้องทำตัวสตรองทากันแดดของพี่โอ๊คทาทับๆ แล้วก็อุ้มลูกลงทะเลลงสระว่ายน้ำ อาบแดดด้วยซึ่งเราหลบแดดเรายังดำเลยแล้วพี่โอ๊คเอาหน้าอังแดด ตอนหลังเราไม่ไหวแล้ว ทากันแดดไม่หยุด (ยิ้ม) แต่ว่าพี่โอ๊ตเขาจะอุ้มอลิน เพราะอลินเขาจะได้ผิวพี่โอ๊คเขาจะไม่ดำ แต่อลันตอนหลังปอสงสารลูกมากเห็นแต่ตาขาวลูกแล้ว”
หมอโอ๊ค : “เข้มๆ ไงแบบพี่เวียร์”
โอปอล์ : “มันสเต็ปเกินพี่เวียร์มาขั้นนึงแล้วไง”

ตอนนี้กลับมาสู่สภาพเดิมแล้วหรือยัง?
โอปอล์ : “วันนี้ปอกลับมาช่างแต่งหน้าประจำบอกว่าพี่ขอผสมรองพื้นนะเปลี่ยนสีรองพื้นเลยค่ะ (หัวเราะ) “

มันเสียความมั่นใจไหม?
โอปอล์ : “ไม่หรอกเราดำจนชินแต่เราก็ไม่เคยคิดว่าเข้มมากจริงๆ ตอนนี้”

ตอนนี้ยังแอบกลัวดำอยู่ไหม?
โอปอล์ : “เราไม่เคยกลัวดำเลย เคยคิดว่ามันไม่น่าจะดำขึ้นมาจนวันนี้รู้แล้ว ว่าถ้าเราคิดว่าดำไม่มากมันจะดำได้มากขึ้นๆ อีก คืออีกนิดเดียวเขียวแล้วตอนนี้มันสุดเฉดไปจนเกือบเขียว แต่ว่ามันจะใช้เวลาประมาณปีนึง ของเราจะได้แต่พี่โอ๊คไม่เป็นอะไรเลย”

ภรรยาเราดำแต่สวยไหม?
หมอโอ๊ค : “แน่นอนครับ (ยิ้ม) ก็สุขภาพผิวดีครับ”

ดำกว่านี้ได้ไหม?
หมอโอ๊ค : “เป็นเรื่องปกติครับ มีปัญหาอะไรก็แก้ไขกันไป”

โอปอล์ : “สามีเป็นหมอผิวหนังเราก็เลยเชื่อว่ามีอะไรเราก็ฟื้นฟูกันเอง แต่ว่าความวานมันก็มีหลายเฉดค่ะ จะไม่ดูดมากเพราะว่าเห็นไฟที่ส่องมาแล้วเราว่าในกล้องเราต้องไม่ธรรมดา (หัวเราะ)”

ทุกๆ อาทิตย์จะต้องพาลูกๆ ออกไปเที่ยวใช่ไหม?
โอปอล์ : “ใช่ค่ะใช่”
หมอโอ๊ค : “ก็ผมคิดเลยเสมอว่าการเรียนรู้ที่สำคัญที่สุดคือการที่เจาได้สัมผัสด้วยตัวเอง คือเด็กๆ เป็นเด็กๆ ที่ชอบอ่านหนังสือมากๆ อยู่แล้ว เราก็เลยอยากให้เขาเนี่ยนอกจากเห็นจากตัวหนังสือ จากรูปภาพแล้วถ้าเขาได้เจอของจริงเขาจำได้จริงๆ นะ

อย่างเมื่อวานเขาเล่าเรื่องหัวหินเล่าเป็นเรื่องเป็นราว”
โอปอล์ : “เขาเล่าไปจนเกิดว่า เขาได้เห็นปลากระเบนที่โดนทรายดูดลงไป ความจริงคือเปลือกหอยเราก็เอ๊ะลูกเห็นปลากระเบนจากไหน มันไม่อลังการไปหน่อยเหรอ”
หมอโอ๊ค : “จินตนาการล้ำเลิศ เอ๊ะได้ใครมานะ (หัวเราะ)”
โอปอล์ : “ได้ฉันแหละ เราเลยรู้สึกว่าเขาเห็นแล้วเขาจะจำ”

มีทริปต่อไปไหม?
โอปอล์ : “มีตลอดค่ะ”
หมอโอ๊ค : “คือต้องเคลียร์คิวกันทุกอาทิตย์
โอปอล์ : “ทุกเดือนค่ะ แต่ว่าปออยู่กับลูกทีมอาทิตย์จะหากิจกรรมให้ลูกอยู่แล้วค่ะ เช่น ปลูกผัก ซื้อแปลงผัก”
หมอโอ๊ค : “เราเอาง่ายๆ อยู่แล้วครับทำกิจกรรมในบ้านก็ได้ ปลูกผักในบ้าน อะไรใกล้ๆ บ้านก็ได้ไม่จำเป็นต้องหรูหรา”
โอปอล์ : “ได้ลองอะไรใหม่ๆ เช่นเรามีสวนสาธารณะพาลูกไปวิ่ง แต่ต่างจังหวัดคืดว่าน่าจะประมาณ 2-3 เดือนครั้ง ต่างประเทศเราเข็ดนะ (หัวเราะ) เราเข็ดจากปีที่แล้วที่พาเขาไปญี่ปุ่นแล้วเขาร้องไห้ไม่หยุด 5 ชั่วโมง เรารู้สึกว่าเราอยากตายมากๆ เราก็เลยคิดว่ารอลูกรู้เรื่องมากกว่านี้ คือแม่กับพ่อคิดว่าไปต่างประเทศเราจะได้พัก แล้วกลายเป็นไม่ได้พักมันเหนื่อย”
หมอโอ๊ค : “คิดถึงที่ทำงานมากๆ ครับ (หัวเราะ)”

แล้วเวลาพาเขาไปเขาสนุกไหม?
โอปอล์ : “สนุกมากค่ะ”
หมอโอ๊ค : “สนุกครับ เขาจะพัฒนาอะไรใหม่ๆ เรียนรู้อะไรที่น่าตื่นเต้นตลอด”

ถามถึงเรื่องที่น้องอลินเหมือนมีความทรงจำของชาติที่แล้ว
โอปอล์ : “ปอพูดเล่นเรื่องความทรงจำของชาติที่แล้ว ปอให้ลูกอ่านหนังสือเยอะ อย่างเมื่อกี๊ที่พูดบนเวทีว่าเสียงเขาแปลกๆ น่าจะเป็นเพราะโดนแมงมุมกัดมาอันนี้มาจากสไปเดอร์แมน หรือวันนั้นน้องเต้ย จรินทร์พร ไปบ้าน อลินพูดกับเต้ยว่าออกไปทำงานได้แล้ว แม่เลี้ยงหนูไม่ไหวแล้วเอามาจากลูกหมูสามตัว วันนั้นปอไหว้พระวัดดีๆ เลยคนเขาก็มองด้วย เพราะเขาจะมองว่าเราเป็นแม่ที่ดีแน่ๆ แล้วอลินก็พูดขึ้นมาว่าสาธุขอให้ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แล้วคนข้างๆ ก็มองเราเราก็งอกว่าไม่ค่ะไม่ได้สอน (หัวเราะ) มันมาจากเป็นนิทานส่งเสริมคุณธรรมเรื่องอย่าซื้อปลาไปปล่อยแถวท่าน้ำ นางจำไดอะล็อกนั้น”

สรุปแล้วความจำดี?
โอปอล์ : “ความจำดีเขาจะจำไดอะล็อกในบ้างท่อน มาใช้ในสถานะการณ์ที่ต่างกัน จึงทำให้พ่อแม่ขนลุก เช่นอยู่ดีๆ นั่งกราบพระแล้วก็ไหว้ฉันจะกาาบพระแก้ว”
หมอโอ๊ค : “ผมนี่หนีตลอดเลย”
โอปอล์ : “เรื่องไหนวะเราไม่เคยให้ดูละครเลยแต่ว่าลูกเราอ่านหนังสือเยอะมาก”

เคยคิดไหมว่าลูกเราจะมีองค์?
โอปอล์ : “ไม่ค่อยมีคนคิดว่ามี แต่จะคิดว่าแม่สอนมาแบบนั้น”

เห็นมีเลิกทาสด้วย?
หมอโอ๊ค : “เขาเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับในหลวง เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจเขาก็จะจำได้หมดเลย รัชกาลที่ 5 เลิกทาสอะไรอย่างนี้ครับ”
โอปอล์ : “มีครั้งนึงที่อลินพูดว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้รู้ว่าเด็กเขามีหยักสมองที่มีความจำเยอะมาก ดังนั้นสิ่งที่ต้องระวังที่สุดตอนนี้คือคำพูด คำหยาบจากเพื่อนที่มาบ้าน คำสบถอะไรอย่างนี้ไม่ได้หลานจำจริงๆ เพราะกำลังจะไปโรงเรียนถ้าลูกไปสบถคำหยาบที่นั้น เจาจะบอกว่าพ่อแม่เลี้ยงไม่ดี”

เห็นว่ามีการคัดกรองเวลาเพื่อนมาบ้านด้วย
โอปอล์ : “หลายคนก็ยังไม่ให้เข้าบ้านอยู่ตอนนี้ คัดมากเพราะลูกเราจำ”
หมอโอ๊ค : “ซันนี่ตอนนี้เป็นอย่างไรได้เข้าหรือยัง (หัวเราะ)”
โอปอล์ : “ยังๆ ส่งหน้าบ้านเพราะเราต้องคัดกรองนิดนึง”

ซันนี่ทำไมถึงไม่ให้เข้าบ้าน?
โอปอล์ : “จริงๆ เป็นคนดีเขาก็เป็นพ่ออุปถัมภ์”
หมอโอ๊ค : “แค่เรียงประโยคไม่ค่อยรู้เรื่องกลัวจะติด (หัวเราะ)”
โอปอล์ : “เราอยู่บ้านเลี้ยงลูกถ้าเกิดออกไปไหนก็จะรู้สึกผิดที่เราทิ้งลูกไปหาเพื่อน ก็เลยใช้วิธีให้ทุกคนมารวมตัวกัน ตอนนี้ที่บ้านคือรับแขกไม่หยุดเลย จนตอนนี้คนมาส่งของลูกก็สวัสดีหมด นึกว่าเพื่อนแม่ (ยิ้ม) “

แสดงว่าตอนน้องเด็กมากๆ ก็จะเยี่ยมไม่ได้ใช่ไหม แต่ว่าตอนนี้ก็เล่นได้เต็มที่
หมอโอ๊ค : “ใช่ครับ”
โอปอล์ : “ตอนนี้ก็บอกได้แล้วว่าอันนี้อย่าพูดนะลูก เมื่อเช้าเขาพูดว่าแม่ก็เป็นคนไม่ดี หนูก็เป็นคนไม่ดี เราเป็นคนไม่ดี อันนี้มาจากเรื่องกัปตันอเมริกา”
หมอโอ๊ค : “ฉากเหล่าร้ายรวมกัน”

คิดว่าลูกเราเป็นอัจฉริยะไหม?
หมอโอ๊ค : “อย่างนี้เรียกอัจฉริยะเหรอครับ (หัวเราะ)”
โอปอล์ : “เราว่าเด็กทุกคนจำได้ แต่พ่อแม่ชอบไม่รู้ว่าเด็กรู้เรื่อง”

แสดงว่าต้องจำได้ว่าประโยคที่พูดมาจากเรื่องอะไร?
โอปอล์ : ”ใช่บางทีเราขนลุกมากๆ ก็ต้องเรียกพี่เลี้ยงมาคุยว่าใครสอนน้องประโยคนี้”

อย่างนี้จะให้ดูทีวีได้ไหม?
โอปอล์ : “ทีวีเราให้ดูแค่ดิสนีย์ แชนแนล”
หมอโอ๊ค : “ไม่อยากไปปิดกั้นเขาหรอก ให้เขาอยู่แบบนี้ตลอดไม่ได้อยู่แล้ว”
โอปอล์ : “เราก็โตมากับทีวี แต่มีพ่อแม่คอยสอนบ้าง”

หนังสือเวลาเลือกอย่างไร?
โอปอล์ : “เราจะอ่านก่อนทุกเล่มนะ เพราะมันนเคยมีเล่นนึงที่เราไม่อ่านเพราะชื่อเรื่องมันน่าสนใจสอนน้องไม่ให้โกหก แต่จุดจบของเด็กชายในเรื่องคือโดนงูกิน แล้วเรามาอ่านตอนที่ลูกเลื้อยเป็นงูให้เราดูแล้วมันน่ากลัวเกินไป บางเรืองหน้าปกมันดูน่ารักมากแต่ว่าข้างในเป็นของเด็กโต เช่นเรื่องเหล้ายาอะไรอย่างนี้

มีอะไรที่ต้องกังวลไหมในวัยกำลังจำ?
โอปอล์ : “ทุกอย่าง นี่เราว่าจะไปเรียนเพิ่มอย่างที่บอกเพราะว่าบางอย่างเราตอบคำถามลูกไม่ได้”
หมอโอ๊ค : “ผมว่าความใกล้ชิดตอบทุกปัญหา คือถ้าเราเรียนรู้ไปกับเขาเห็นว่าถ้าเขาเข้าใจผิดก็บอกไม่มีอะไรน่ากลัว”

แล้วจะเข้าโรงเรียนต้องไปบอกคุณครูเรื่องไหนเป็นพิเศษไหม?
โอปอล์ : “ไม่ๆ เราจะไม่เป็นพ่อแม่ที่จ้ำจี้ คือเราเคยเป็นเด็กเรารู้ว่า เวลาเราเห็นผู้ปกครองเพื่อนทำไมยุ่งจังเลย ถ้าเราไว้ใจโรงเรียนนี้แล้ว ไว้ใจคุณแล้ว ครูกับโรงเรียนจัดการหน้าที่ตรงนั้นไป เราอยู่บ้านคอยดูแลมันต้องแบ่งกัน”
หมอโอ๊ค : “ผมไม่ใช่ว่าเราโดยภาระให้กับโรงเรียน ยังไงการเลี้ยงเด็กมันต้องร่วมกันทั้งบ้านแล้วโรงเรียน มีปัญหาอะไรก็แก้กันไปมันเกิดขึ้นได้อยู่แล้วคับ”
โอปลล์ : “แล้วเราไม่อยากให้ลูกรู้สึกว่าพ่อแม่เพอร์เฟคทุกเรื่อง ไม่อยากจะเป็นเด็กพิเศษในโรงเรียนอย่างนั้นเด็ดขาด เข้าเรียนแล้วก็เผชิญชีวิตต่อเองแล้วกัน”

ถามเรื่องความคืบหน้าล่าสุดแจ้งความถูกอ้างชื่อขายสินค้าปลอม
โอปอล์ : “อยากเล่ามาก วันนั้นที่แถลงข่าวเนี่ยทางตำรวจทุกภาคส่วนเขาก็โทรไปบรีฟ เราก็ตื่นเต้นตลอดที่เขาเล่าแล้วเขาก็บอกว่าที้งหมดเป็นความลับ อ่าวเกือบไลน์บอกเพื่อนคือทุกๆ อย่างมันเป็นความลับมาก เราได้แต่ดูหนังอย่างนี้อย่างนั้นไม่เคยเกิดขึ้นกับเรา ตอนที่เขาจะไปทลายโกดังตื่นเต้นมาก อยากจะเล่าให้เพื่อนฟังแต่มันต้องเป็นความลับ และหลังจากนี้มันยังเป็นเรื่องราวที่เรายังพูดไม่ได้ด้วย”
หมอโอ๊ค : “มีรายละเอียดอีกเยอะมากในการขยายผลธุรกิจทั้งหมดที่มันเป็นขนาดใหญ่ และผู้ที่เกี่ยวข้องเยอะมากครับ”

เริ่มเห็นเค้าลางบ้างหรือยัง?
โอปอล์ : “มันเร็วกว่ามี่เราคิดทุกๆ อย่างพอเราแจ้งความไม่กี่วันให้หลังคือรู้เรื่องแล้ว คือจริงๆมันไม่ยาก ตอนนี้ก็คือรอว่าจะเปิดเผยเมื่อไหร่ ซึ่งเราพูดไม่ได้เดี๋ยวเราโดนจับ”
หมอโอ๊ค : “จริงๆ เราไม่ได้โฟกัสว่าเราจะไปเรียกร้องเงินทองอะไรจากเขาอยู่แล้ว เราทำเพื่อปกป้องในสิทธิ์ของเรา เขาไม่ควรมาหลอกลวงคนไปแบบนี้
โอปอล์ : “แล้วประเด็นคือคนเชื่อเยอะเหลือเกิน”

แล้วตอนนี้เขาหยุดแอบอ้างแล้วหรือยัง?
โอปอล์ : “ลองดู (หัวเราะ) แต่ว่าหยุดเลยตั้งแต่วันนั้น”

เห็นบอกว่าจะช่วยหมอเจี๊ยบ กับป๋อมแป๋มด้วย
โอปอล์ : “ส่วนมากเรามีการคุยกัน คนหึกเหิมพอเราจะเอาเรื่องที่สุดแล้ว พี่ป๋อมแป๋มไม่ว่าง หมอเจี๊ยบไม่ว่าง แต่เราคุยกันแล้วว่าทุกคนไม่ปล่อย ตอนนี้เรามีคุยทนายที่ดูแลปออยู่เอารายชื่อที่ประสบปัญหาแบบเราแจ้งความไว้เยอะมาก แล้วเราสองคนโดนถึงขั้นมีคนเดินเข้ามาถามว่าขายยาตัวนี้”
หมอโอ๊ค : “คือเข้ามาหาเราเลยว่าเราขายจริงๆ เหรอเนี่ยเรารู้สึกว่าไม่ได้แล้ว”


เรียบเรียง : พนิดา ชัยฤกษ์ 

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here