เป็นกระแสดราม่าอยู่ช่วงนึง สำหรับข่าวที่อดีตนางเอกสาว “กุญแจซอล ป่านทอทอง“ ถูกครอบครัวตัดขาดสายเลือด เนื่องจากเธอได้ตัดสินใจไปใช้ชีวิตอยู่กินกับสามี “กัปตันณัฏฐ์ – ฌณัฏฐ์ เลิศพัฒนาไทย“ และให้กำเนิดลูกชาย “น้องเทคออฟ“ จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อยู่นาน เพราะสาวกุญแจซอลไม่เคยออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้สักที ล่าสุดเธอได้ถือโอกาสควงแขนสามีมาเปิดใจครั้งแรกถึงชีวิตครอบครัว และความสัมพันธ์ของสาวกุญแจซอลกับพ่อแม่ของเธอ “คุณพ่อนึกคิด – คุณแม่มุกดา บุญทอง“ ว่าตอนนี้เป็นยังไงกันบ้าง
อย่างข่าวที่ผ่านมา อยากบอกอะไรกับสังคมบ้าง
กุญแจซอล : “ขอไม่บอกอะไรค่ะ เพราะเป็นเรื่องในครอบครัว ไม่อยากจะพูดอะไร”
แต่ตอนนี้คนก็มองเราในแง่ลบไปแล้ว
กุญแจซอล : “ไม่เป็นไรค่ะ ถามว่าเครียดไหม ก็มีอยู่แล้วค่ะ มันก็ต้องอยู่ให้ได้ค่ะ แค่ลำพังตอนนี้เรามาเป็นแม่ เรามาโฟกัสที่ลูกก็หนักแล้วค่ะ ตอนนี้พูดไม่ถูกอ่ะ เรามีน้อง แค่เวลาดูแลลูกเรายังพักผ่อนไม่ค่อยพอเลย”
อยากอธิบายยังไง เพราะคนมองว่าเราเลือกแฟนมากกว่าพ่อแม่
กุญแจซอล : “ขอไม่พูดอะไรดีกว่าค่ะ”
ณัฏฐ์ : “มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ขอไม่พูดอะไรดีกว่า”
ตอนท้องแล้วมีข่าวเครียดถึงขั้นไหน
กุญแจซอล : “เครียดมากค่ะ”
ณัฏฐ์ : “ก็เครียดอยู่แล้วครับ แต่อย่างที่บอกเราก็เป็นกำลังใจให้กัน”
หลายคนบอกว่าหลานจะเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์กับครอบครัว
กุญแจซอล : “(หัวเราะ) หลานยังไม่รู้เรื่อง มันเป็นเรื่องของเวลา เราก็บอกไม่ได้ ทุกคนก็มีเหตุผลของตัวเอง”
มีการติดต่อกันบ้างไหม
ณัฏฐ์ : “ไม่พูดละกันครับ”
จะพาลูกไปหาคุณพ่อคุณแม่ไหม
กุญแจซอล : “ก็รอเวลาที่เหมาะสม เวลาจะเยียวยาทุกอย่างค่ะ ทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง”
ไม่ถึงขั้นตัดขาดกันไปเลยใช่ไหม
ณัฏฐ์ : “หลายๆ อย่าง หลายๆ ปัจจัย มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเราแค่ 2 หรือ 3 คน เป็นเรื่องของอนาคตแล้วกัน”
บางคนเข้าใจว่าเรากักขังหน่วงเหนี่ยว คนหาว่าเราไปพรากลูกเขามา
ณัฏฐ์ : “ผมไม่สามารถไปบังคับความคิดของใครได้ อันนี้ก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคนก็แล้วกัน คงไม่สามารถไปชี้นำความคิดของใครได้”
ณ วันนี้กุญแจซอลคิดไหมว่าสิ่งที่เราเลือกมันเป็นสิ่งที่ใช่สำหรับเรา
กุญแจซอล : “ก็คิดว่าทำให้ดีที่สุดค่ะ คนเราอยู่ด้วยกัน ก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้นานแค่ไหน ยิ่งเรามาเป็นแม่สิ่งที่สำคัญก็คือลูก วันนี้ก็คิดแค่ว่าทำยังไงก็ได้ใช้เวลาที่มีอยู่ให้มีค่าที่สุด”
วันที่เราเลือกใช้เกณฑ์อะไรตัดสินใจเลือก
กุญแจซอล : “ก็มีเหตุผลของตัวเอง คือไม่อยากพูด เพราะมันก็ละเอียดอ่อนค่ะ”
ณัฏฐ์ : “ขออนุญาตไม่พาดพิงละกัน”
วันนี้เราเป็นแม่คนแล้ว เราเข้าใจความรู้สึกแม่หรือยัง
กุญแจซอล : “เข้าใจค่ะ”
คิดถึงพ่อแม่เราไหม
กุญแจซอล : “คิดถึงค่ะ พ่อแม่ใคร ใครก็คิดถึงค่ะ”
อีกฝั่งประกาศตัดขาดเราไปแล้วมีผลกับสภาพจิตใจเราแค่ไหน
กุญแจซอล : “ก็มีผลนะคะ แต่ว่าที่บ้านหนูเขาไม่ได้เลี้ยงเราให้เป็นคนหวานตั้งแต่แรกแล้ว ก็ตกใจกับคำว่าตัดขาด”
เราตัดสินใจแบบนี้หลายคนแอนตี้เยอะ
กุญแจซอล : “เราห้ามความคิดใครไม่ได้ บอกไม่ถูกค่ะ”
ณัฏฐ์ : “คือมนุษย์เรานอกจากความรู้สึกก็มีเหตุผลปัจจัยอื่น ชีวิตมันต้องเดินต่อไป บางอย่างมันก็ไม่ได้มีอะไรสมบูรณ์เพอร์เฟกต์ 100% อยู่แล้ว”
เห็นคนคอมเมนต์ด่าทอ มีท้อไหม
กุญแจซอล : “ก็มีบ้างค่ะ มาแบบจัดเต็มมาก (หัวเราะ) มันเยอะค่ะ ก็ไม่เป็นไรปล่อยให้เขามองไปแบบนั้น เราห้ามความคิดใครไม่ได้ ก็แล้วแต่เขา”
ให้กำลังใจกันยังไงบ้าง
ณัฏฐ์ : “บางอย่างเราหาวิธีแก้ปัญหาไม่ได้ อย่างน้อยก็ปลอบ คำปลอบโยนบางทีก็ช่วยแก้ปัญหาไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ช่วยเป็นกำลังใจ เราก็ยังมีกันและกัน ที่สำคัญเรายังมีตัวน้อย”
ช่วงที่มีข่าว ฝ่ายชายค่อนข้างโดนหนัก ได้อธิบายอะไรไหม
ณัฏฐ์ : “ในครอบครัวมันก็คุยกันอยู่แล้ว แต่ว่าเรื่องแบบนี้ก็ไม่ขอมาพูดในที่นี้ก็แล้วกันครับ” กุญแจซอลเข้ากับครอบครัวเขาได้ดีไหม
กุญแจซอล : “หนูเข้าได้ แต่ไม่แน่ใจว่าป๊ากับม๊าจะเข้าได้หรือเปล่า (หัวเราะ) ไม่อยากพูดเข้าข้างตัวเอง”
ณัฏฐ์ : “พ่อกับแม่ผมก็เอ็นดูเสมือนลูกสาวคนนึง”
มีลูกแล้วเป็นยังไงบ้าง
กุญแจซอล : “เราก็ได้รู้ว่า แค่เวลาครึ่งวันอย่างเราไปรับปริญญาเราก็คิดถึงลูกแล้วค่ะ”
วันนั้นพ่อกับแม่ก็ไปด้วย แต่ว่าไปของน้องเรา
กุญแจซอล : “หนูไม่ทราบค่ะ ถามว่าน้อยใจไหม อ๋อ ไม่ค่ะ วันนั้นหนูก็รีบเหมือนกันค่ะ อันนั้นก็แทบไม่ได้บอกแฟนคลับ บอกน้อยมาก เขารู้เองว่าหนูไปรับ เราก็ไปกันแค่นี้ แล้วรีบมาให้นมลูกด้วยค่ะ”
การเป็นคุณแม่ยังสาวของเราเป็นยังไงบ้าง?
กุญแจซอล : “ก็คิดว่าไม่อยากแก่ค่ะ (หัวเราะ) เพราะว่าพอมีลูกเราก็พยายามไปฟิตเนส ต้องดูแลตัวเองนิดค่ะ ชีวิตมันเปลี่ยนค่ะ มันถึงจุดเวลาที่ทานอาหารไปให้นมไปด้วย ต้องมาเล่นกับลูก อาบน้ำให้ลูก”
วางแผนไว้ คิดว่าจะมีคนที่ 2-3 ไหม
ณัฏฐ์ : “เดี๋ยวรอติดตามชมต่อไปครับ เรื่องการจัดงานผมกับกุญแจซอลแต่งงานไปแล้วครับ เมื่อปีที่แล้ว วันที่ 7 พฤษภาคม”
มีคำมั่นสัญญาอะไรให้ไหม
กุญแจซอล : “ไม่ค่ะ ไม่มีคำสัญญา”
ณัฏฐ์ : “เราสู้ด้วยกันมา ตอบได้แค่นี้”
ถ้าน้องโตขึ้นจะอธิบายกับเรื่องที่เกิดขึ้นยังไง
ณัฏฐ์ : “เคยคุยกันเรื่องนี้ วันนี้น้องก็ต้องมีความคิดความอ่าน เราก็คงให้ข้อมูลได้แค่ระดับหนึ่ง ส่วนที่เหลือก็แล้วแต่เขาว่าจะรู้สึกยังไง”
กุญแจซอล : “ส่วนเรื่องงานในวงการของหนู ถ้ามีโอกาสก็อยากทำ ยังชอบอยู่ แต่ช่วงนี้ก็ดูลูกอยู่“
กลัวผลกระทบที่เกิดขึ้นไหม หากยังอยากทำงานในวงการ
กุญแจซอล : “แล้วแต่คนจ้างงานเลยค่ะ สบายใจก็จ้าง ไม่สบายใจก็แล้วแต่”
ณัฏฐ์ : “งานในวงการเป็นสิ่งที่กุญแจซอลชอบและถนัด เป็นวิชาชีพของเขา มันน่าจะเป็นส่วนเติมเต็มชีวิต มันอยู่กับเขามาเป็น 10 ปีแล้ว”
เรียบเรียงโดย : ณัฐกาญจน์ ลิ้มสุขสมบูรณ์