เรื่องการเอาชื่อศิลปินดาราไปแอบอ้างมักมีให้เห็นอยู่บ่อยๆ ล่าสุดนักแต่งเพลงชื่อดัง “ดี้-นิติพงษ์ ห่อนาค” ก็โดนเข้าให้แล้ว โดยถูกผู้ไม่หวังดีนำภาพถ่ายไปแอบอ้างดำเนินธุรกิจขายตรงแบรนด์หนึ่ง ซึ่งพี่ดี้ได้ทำการเข้าแจ้งความเรียบร้อยแล้ว และอีกประเด็นนึงที่พี่ดี้โพสต์ความคิดเห็นในเฟซบุ๊คส่วนตัวกรณี “น้องเมย” นักเรียนทหารที่เสียชีวิต จนหลายคนมองว่าพี่ดี้ต้องการจะสื่ออะไรรึป่าว เจ้าตัวเผยว่า
“เรื่องคดีพี่ก็ได้ทำหน้าที่ของพี่เสร็จเรียบร้อยแล้ว2เรื่อง คือหนึ่งปกป้องสิทธิของตัวเองและเพื่อน ไม่ให้ใครเอาไปแอบอ้างได้ สองคือดูแลผู้ที่อาจจะถูกหลอก ผู้ที่อาจจะเสียเงินไม่รู้เท่าเขา”
คดีคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว?
“อันนั้นต้องไปถามตำรวจ คือได้ไปแจ้งความที่สน.ทองหล่อ แล้วก็ได้ไปแจ้งความอีกที่นึง ก็เป็นเรื่องของความผิดทางคอมพิวเตอร์ ก็ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการของเขาไป”
ได้มีการติดต่อมาทางพี่ดี้มั้ย?
“ยังไม่มี ก็อย่างที่บอก จุดประสงค์หลักคือตอนนี้ต้องการให้ได้เผยแพร่ ในกรณีแบบนี้ต้องให้ทุกท่านระวัง ว่าจะมีคนมาหลอก หรือเอาชื่อหรือหน้าผมไปบอกว่าทำธุรกิจนั่นนี่ ไม่มีนะครับ อย่าไปหลงเชื่อ ซึ่งก่อนหน้านี้มีคนหลงเชื่อไปแล้ว โดยที่อาจจะเกี่ยวข้องกับหน้าพี่ หรือชื่อพี่รึป่าวไม่รู้ ก็เห็นบอกว่ามีเสียไป 20-30 ล้านบาท พี่ก็งงไปใหญ่เลยนะ ถ้าหน้าพี่หลอกได้ถึงชนาดนั้น เอามาให้พี่ตรงๆเลยดีกว่า”
หลังจากที่ไปแจ้งความ มีผู้เสียหายติดต่อมามั้ย?
“มีๆ มีผู้เสียหายติดต่อมาบ้าง แล้วก็ไปแจ้งความด้วยกันวันนั้นด้วย แต่อีกกระทงนึง เข้าข่ายหลอกลวง แต่ก็ไม่ได้คุยกันมากมาย เราก็ทำหน้าที่ของเราไป”
ได้ถามคนที่มาแจ้งความด้วยมั้ย ว่าทำไมถึงเชื่อจนเสียเงิน 20 ล้าน?
“มันถามเขาแล้วเจ็บในทรวงเขาอ่ะ เราก็เลยไม่ได้อยากถามเขาเพราะว่ามันเป็นเรื่องความทุกข์เขา ขอแค่ว่าเราได้บอกๆต่อกันไป ไม่มีธุรกิจแบบนี้ ต้องดูแลตัวเองให้ดีนะครับ อย่าเอาไปพาดพิงกับธุรกิจขายตรงอะไรเขา เพราะธุรกิจขายตรงที่ถูกกฎหมายก็มี สงสารคนที่ทำธุรกิจถูกต้องด้วย”
ต้องระมัดระวังในการถ่ายรูปกับใครมากขึ้นมั้ย?
“คือเราก็คงระวังอะไรไม่ได้มาก จะมาขอบัตรประชาชนก่อนถ่ายรูปมันก็ไม่ได้ เราก็เป็นคนที่มีชื่อเสียง ก็ยังโชคดีที่มีคนอยากถ่ายรูปด้วย เราก็โอเคให้เขาถ่าย ดีกว่าไม่มีคนถ่ายรูปด้วย อันนี้จะแย่ เราก็ยินดี แต่มันก็ต้องมีบ้างแบบนี้ เราก็จัดการไปตามคดีความ ถ้าเขาเอาไปใช้ผิดๆ”
ในส่วนของพี่ดี้ จะจัดการขั้นเด็ดขาดยังไงมั้ย?
“ไม่ได้เรียกร้องอะไร จริงๆแล้วคือยากให้ช่วยกระจายไปว่าอย่าหลงเชื่อธุรกิจที่ผิดกฎหมายนี้ ส่วนจะดำเนินคดีถึงไหน ก็สุดแล้วแต่เจ้าหน้าที่”
อีกหนึ่งประเด็น ที่โพสต์ในเฟซบุ๊ค เกี่ยวกับคดีของ “น้องเมย” จุดประสงค์ที่อยากจะเผยแพร่เพื่ออะไร?
“เฟซบุ๊คเราก็เหมือนนิตยสาร เหมือนหนังสือพิมพ์เล่มนึงของทุกคนอ่ะนะ ทุกคนก็ทำการแสดงความเห็น เป็นเหมือนคอลัมนิสต์ในตัวเอง ส่วนกรณีของน้องเมย ประเด็นคือแค่อยากจะแสดงความรู้สึกว่า ผู้ใหญ่ในบ้านเมือง การพูดในคดีหรือเรื่องราวละเอียดอ่อนนิดนึงก็สะเทือนใจ และเกิดความเสียหายกับตัวท่านเอง คือเรื่องของน้องเมย จะถูกหรือจะผิด สอบสวนออกมายังไงก็เป็นเรื่องที่ต้องทำกันไป ที่ไหนก็ตามที่มีการฝึกทหารตำรวจ ก็ต้องยอมรับว่าเขาต้องฝึกค่อนข้างจะหนักและแข็งแรงกว่าโรงเรียนธรรมดาทั่วไป ซึ่งจะถูกหรือผิดก็แล้วแต่เขาสอบสวนกัน เราไม่เกี่ยวอยู่แล้ว ที่เขียนไปวันนั้นก็แค่ว่าถ้าเมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้ว และสังคมไม่สบายใจ ก็ช่วยกันพูดกันให้สบายใจหน่อยแค่นั้นเอง”
หลังจากที่โพสต์ไปมันฟีตแบคที่กลับมา มีทั้งบวกและลบ?
“ไม่ค่อยมีลบอ่ะเนาะ เพราะที่ลบๆเราบล็อคไปหมดแล้ว(หัวเราะ)”
ได้เตรียมใจรับมือไว้มั้ย ก่อนที่จะโพสต์?
“การเล่นเฟซบุ๊ค ง่ายมาก ถ้าใครแชร์ไปเราก็ไม่ต้องกดอ่าน ถ้าใครเข้ามาคอมเม้นต์ในเฟซบุ๊คเราโดยไม่เป็นมิตร เราก็บล็อค จบ ไม่ต้องเครียด ก็มีพี่น้องในวงการเข้ามาเย้ๆ ก็ไม่ได้มีอะไร คือที่เราเขียนลงไปก็ไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี ก็แค่บ่นของเราเอง ใครที่ชอบเราเขาก็ชอบวิธีคิดของเรา คนที่ไม่ชอบก็คงไม่รักเรา ก็ตามสบาย คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ”
แสดงว่าต่อจากนี้ พี่ดี้ก็ยังจะแสดงความคิดเห็นในเรื่องต่างๆอยู่?
“คนอื่นๆเขายังบ่นได้ ทำไมเราบ่นแล้วมันจะเป็นเรื่องเป็นราวอะไร ก็ยังคิดนะบางทีเขียนคำว่าอ้าวคำเดียวก็ยังเป็นเรื่องเลย ก็งงๆ คือเขียนอะไรก็ตามที่ไม่ผิดกฎหมาย ไม่ผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ ดูหมิ่นเหยียดหยามอะไร ก็ต้องผ่านการวิเคราะห์มาบ้าง บางครั้งอาจจะรุนแรงไปบ้างก็ตาม เหมือนคุยกับเพื่อน ใครจะรับไปแบกก็ตามสบาย”
“ก็ยังงงว่าเป็นอะไร เราก็เป็นคนนึงที่เล่นเฟซบุ๊ค คนที่มีชื่อเสียงกว่าเรา เขาเขียนไม่เห็นจะเป็นอะไร พอเขียนขายของขายเพลง หายกันหมดเลย ก็เป็นเรื่องธรรมดา ตอนนั้นเราอารมณ์อะไรก็เขียนไป เหมือนคุยกับเพื่อน”
จริงๆอยากให้ที่เราเขียนนี้ส่งไปถึงใครมั้ย?
“ไม่ได้อยากจะให้ส่งไปถึงอะไรใคร ถึงก็ได้ไม่ถึงก็ได้ เพียงแต่ว่าเราได้พูดในสิ่งที่เราอยากพูด”
ในข้อความที่เขียนไปทั้งหมด มันมีผลกระทบกลับมามั้ย?
“แรกๆก็อาจจะเป็น เพราะเราไม่เคยชิน ว่าอะไรทำไมเราทำอะไรอ่ะ เดี๋ยวนี้เล่นมาหลายปีแล้ว เดี๋ยวก็มีอีก แต่เราก็ไม่ได้สนใจอะไรนะ เขียนไปแล้วก็เขียนเลย ใครจะแชร์ไปไหนก็ไม่เป็นไรตามสบาย ถ้ามาในเฟซบุ๊ค มาพูดอะไรซุ่มซ่ามก็ไม่เป็นมิตรกันนะ แต่ก็ไม่ได้ถือสาอะไร ใครที่อ่านแล้วเห็นด้วยที่เราเขียนก็อ่านไป คนไหนอ่านแล้วไม่สบายใจก็เรื่องของเขา สิทธิส่วนบุคคล”
เรียบเรียงโดย ณัฐกาญจน์ ลิ้มสุขสมบูรณ์
ขอบคุณ เฟซบุ๊ค : นิติพงษ์ ห่อนาค