เป็นอีกหนึ่งนักแสดงสาวที่ยึดหลักคำสอนของในหลวงรัชการที่ 9 มาโดยตลอด สำหรับ “อาย กมลเนตร” โดยเธอเล่าว่า เธอหันมาศึกษาในเรื่องพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน รวมถึงได้ทำ หนังสือ “สานต่อสิ่งที่พ่อทำ” ที่รวบรวมแนวคิดของการทำงานของในหลวงรัชกาลที่ 9 เอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้อ่านสร้างแรงบัลดาลใจ รวมถึงนำหลักคำสอนในเรื่องของ หลักเศรษฐกิจพอเพียง มาใช้กับตัวเองมาโดยตลอด
พูดถึงความทรงจำในหลวงรัชกาลที่9ของเรามีความประทับใจอย่างไร?
“ความทรงจำของเราเคยได้มีโอกาสไปรับเสด็จที่ทุ่งมะขามหย่อง ที่จังหวัดอยุธยาเมื่อปี พ.ศ.2554 ตอนนั้นปีน้ำท่วมด้วยเป็นครั้งเดียวเลยที่เคยได้ไปเคยรับเสด็จ แต่ว่าไม่เคยรับเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 9 นะคะ แต่ว่าอันนี้ถือเป็นครั้งแรก เราเข้าใจอยู่แล้วว่าต้องรอเราก็ไปรออยู่ประมาณ 3 ชั่วโมง ก็แบบแดดแรงฝนตกแล้วแต่ แต่ทีนี้เพียง 30 วินาทีเท่านั้นรถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนรถมาคือแบบทุกอย่างแดดร่มมาก คือเรารอมา 3 ชั่วโมง เพียง 30 วินาทีที่ได้เห็นท่านคือขนลุกมาก ด้วยเสียงที่ประชาชนพูดพร้อมกัน ทรงพระเจริญ มาเรื่อยๆ นั่นก็เป็นโมเม้นท์ที่ประทับใจ พูดแล้วยังขนลุกอยู่เลย นั่นก็เป็นครั้งเดียวที่ได้รับเสด็จท่าน”
หากพูดถึงในหลวงรัชกาลที่9 สิ่งแรกที่เรานึกถึงเลยคืออะไร?
“คือสิ่งที่พระองค์ทำ สิ่งที่พระองค์ทำจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตของพระองค์เองด้วย หรือว่าการพัฒนาการลงมือทำให้เกิดให้เห็นภาพ มันยากมากนะถ้าเราลองมองกลับไป คือท่านไม่ต้องทำก็ได้ใช่ไหมค่ะ เพราะไม่ใช้หน้าที่ๆ ท่านต้องทำ และเราก็จะไม่รู้ว่าถ้าท่านไม่ทำทุกวันนี้เราจะเป็นอย่างไรอยู่กันยังไง ชาวบ้าน ชาวเขา จะอยู่อย่างไรเรายังนึกไม่ออกเลย เพราะท่านทำมาตลอดกี่ปีของท่านจนสุดท้ายจริงๆ ที่อยากจะบอกก็คือแนวคิดแนวทางที่ท่านทำเอาไว้ แล้วอายโชคดีมากที่ได้สานต่อสิ่งที่พ่อทำ และยังได้ทำหนังสือสานต่อสิ่งที่พ่อทำที่รวบรวมแนวคิดของการทำงานของในหลวงรัชกาลที่9 เอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้อ่านสร้างแรงบัลดาลใจว่าท่านมีวิธีการมองเห็นปัญหายังไงมองข้ามมันไปยังไง แล้วถอยหลังกลับมาเป็นยังไงเป็นแนวคิดที่ชาญฉลาดมาก เราได้ตรงนี้แหละที่เป็นสิ่งที่ท่านทำอยู่”
ตัวอายเองถือว่าเป็นคนรุ่นใหม่ ทำไมถึงหันมาศึกษาพระราชกรณียกิจอย่างจริงจัง?
“ไม่รู้เหมือนกันเลย เหมือนเราคงศึกษาแล้วแบบรู้ว่าทุกอย่างคือดีมากๆ แล้วคนในครอบครัวเหมือนเราซึมซับมาจากคนเหล่านี้”
หลักคำสอนไหนที่อายใช้มาตลอด?
“ใช้มาตลอดเลยคือแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงค่ะ ไม่ใช่ทำตัวให้พอดี แต่พอเพียงสำหรับตัวเราเอง คุณอาจจะพอเพียงให้แบบร้อยล้านที่คุณมี คุณอาจจะพอดีในสิบล้านที่คุณมี หรือบ้างคนอาจจะไม่ได้มีเงินล้านแต่พอดีในแบบที่ตัวเองมี และก็ที่เอามาใช้เลย คือเรื่องของการศรัทธา คือเราไม่เชื่อมันในตัวเราเองไงว่าเราจะทำแบบนี้ได้ไหมเพราะมันยังไม่เกิดขึ้น แต่พออายได้ลองไปเดินทางพ่อทุกอย่างเราเห็นเลยว่าสิ่งที่ในหลวงมีทั้งหมดเลยคือความศรัทธาที่ยิ่งใหญ่มาก ในหลวงเชื่อว่าจะทำได้ ปลูกป่าที่เป็นภูเขาหัวโล้น ปลูกชาทำไร้เลื่อนลอย ปลูกป่าที่เขียว และให้ชาวเขาเลิกปลูกฝิ่น หยุดทำลายคนอื่นช่วยชาวเขา ช่วยคนอื่น ช่วยชาวโลก พอเราไปฟังเราคิดในใจร้องโห นี่ทำเพื่อใครก็เพื่อประชาชน ทีนี้เราเอาแนวคิดมาใช้กับตัวเราเองครอบครัวเรา ใช้กับบ้านเรา เราต้องแข็งแรงกับตัวเราก่อนแล้วเราก็ไปช่วยคนอื่นได้ไง ก็เอาแรงศรัทธาตรงนี้มาเป็นแรงบัลดาลใจท่ามันเป็นสิ่งที่ดีเราจงเชื่อว่าเราทำได้
สำหรับตัวเราเองประชาชนธรรมดามีการตั้งปณิธานกับในหลวงรัชกาลที่ 9 บ้างไหม?
“มีค่ะอย่างที่บอกว่าเรามีโอกาสได้เดินทางตามพ่อไม่ใช่แค่ไปศึกษาแล้วจบไป พอเราได้ไปเรารู้ข้อมูลเชิงลึกมากเกี่ยวกับการทำงานแนวคิดทุกอย่างของพ่อ พอเราไปเราอาจจะรู้เลยว่าเราทำอะไรได้บ้าง เราจะแข็งแรงกับตัวเราและจะรู้ว่าเราไปช่วยคนอื่นอะไรได้บ้าง จะทำอะไรที่ช่วยคนอื่นแล้วเราไม่เดือดร้อนทั้งหมดคือตัวเราต้องไหว ถ้าเราช่วงคนอื่นแล้วตัวเราไม่ไหวไม่ได้แบบนี้ถือว่าผิด ดังนั้นเราต้องทำอะไรที่ตัวเราไหว”
หากพระองค์ท่านมองลงมาเราอยากจะบอกอะไรกับพระองค์ท่าน?
“โห ไม่รู้จะบอกอย่างไร ขอบคุณ ขอบคุณมากๆ และก็ดีใจมากๆ ที่ทุกวันนี้เป็นแบบนี้(ร้องไห้)
ครบหนึ่งปีแล้วที่พระองค์ไม่อยู่กับเรา?
“ยังอยู่นะ อยู่ในใจเราเสมอ สิ่งที่อยู่ก็คือแนวคิดสิ่งที่ท่านทำเอาไว้ถ้าใครมีโอกาสได้ไปดอยตุงไปหอแรงบันดาลใจนะ จะเห็นเลยว่าแต่ละห้องจะเขียนพระราชกรณียกิจ เยอะมาก เราถอยหลังมาตาเราทั้งสองข้างยังเก็บไม่หมดเลยนี่คือสิ่งที่ท่านทำมากกว่าการที่พูดคำว่าขอบคุณจะพูดอะไรได้อีก”
อยากให้อายให้กำลังใจประชาชนชาวไทย?
“คืออย่างที่หนูบอกหนูเชื่อว่าท่านไม่ได้ไปไหนเราแค่เอาแนวคิดสิ่งดีๆที่ท่านทำ แล้วมาทำตามหนูเชื่อว่าถ้าเราเริ่มเปลี่ยนจากตัวเราเองคือเป็นจุดเล็กที่สุด มันยากที่จะไปเปลี่ยนคนอื่น เราเริ่มที่ตัวเราเองและเราส่งต่อสิ่งเหล่านี้ไปด้วยกัน มันเป็นคลื่นพลังงานอย่างหนึ่งนะค่ะถ้าเราเจอคนดีๆน่ารักมันก็จะส่งสิ่งดีๆเหล่านั้นมาให้ เราควรส่งสิ่งดีๆไปให้คนอื่นโดยเริ่มจากตัวเราแล้วก็ตั้งใจทำค่ะ”
เรียบเรียงโดย ชานนท์ พิทักษ์ตันสกุล