แม้พระเอกหนุ่ม “เอี๊ยง สิทธา” จะไม่มีโอกาสได้ถวายงานหรือใกล้ชิด พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช แต่หนุ่มเอี๊ยงก็ภูมิใจที่ครั้งหนึ่งได้ขึ้นชื่อว่าเป็น ทหารของพระราชา ซึ่งหนุ่มเอี๊ยงพูดถึงความประทับใจที่มีต่อพระองค์ท่าน รวมไปถึงน้อมนำคำสอนของพระองค์ท่านมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน โดยหนุ่มเอี๊ยงกล่าวว่า
ความประทับใจที่มีต่อ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ?
“ส่วนตัวผมต้องบอกก่อนว่าผมอาจจะเกิดมาไม่ทันช่วงที่พระองค์ท่านทรงงาน แต่ว่าผมก็ได้ติดตามผ่านสื่อต่างๆ ที่ท่านได้ทรงงานครับ ก็ประทับใจในหลายๆอย่าง จริงๆแล้วผมประทับใจในความที่พระองค์ท่านมีความไม่ย่อท้อ อย่างเช่นในหลายๆอย่างที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ในสายตาท่านๆก็ลงมือศึกษา ลงมือทำ ลงมือแก้ปัญหาด้วยตัวเอง จนทุกอย่างออกมาดีทำให้ประชาชนมีความสุขครับ”
น้อมนำคำสอนด้านใดของพระองค์ท่านมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันบ้าง ?
“ส่วนตัวผมก็จะเป็นเรื่องของความซื่อสัตย์ครับ จริงๆเคยได้ยินเรื่องราวที่ว่าพระองค์ท่านเคยไปแข่งเรือ เหมือนกับว่ามีอุบัติเหตุไปชนกรวยแต่พระองค์ท่านเข้าเส้นชัยไปแล้ว พระองค์ท่านก็เดินมาบอกกับกรรมการว่า เมื่อสักครู่ข้าพเจ้าชนกรวย ไม่ต้องให้ตำแหน่งแก่ข้าพเจ้า ผมรู้สึกว่าคนเราทำอะไรไม่มีใครรู้ แต่คนที่รู้คือตัวเรานั่นเอง เฉพาะฉะนั้นถ้าเราซื่อสัตย์ต่อตัวเอง เราก็จะมีความสุขตลอดเวลาครับ”
เคยมีโอกาสได้ถวายงานหรือใกล้ชิดพระองค์ท่านบ้างมั้ย ?
“ถือว่าโชคร้ายที่ผมเกิดมาไม่เคยมีโอกาสเลยครับ”
แต่ครั้งหนึ่งก็ได้ชื่อว่า ทหารของพระราชา ?
“ถูกต้องครับ นั้นก็เป็นความภาคภูมิหนึ่งในชีวิตเลย ตอนที่เราไปเป็นทหารเกณฑ์เป็นช่วงเวลาของพระองค์ท่านพอดี ก็รู้สึกดีครับที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นทหารของพระราชา”
ช่วงที่ปฏิบัติหน้าที่ทหาร ได้ทำอะไรบ้าง ?
“ผมกับเพื่อนค่อนข้างจะทำทุกอย่างเหมือนกัน เพียงแต่ว่าบทบาทหน้าที่ๆผมได้รับ ถ้าจะต้องมีการออกไปนำ เช่น ออกกำลังกายตอนเช้า อย่างตอนไปกินข้าวก็จะถามว่าคนครบรึยัง เหมือนเป็นกึ่งๆ หน้าที่ๆ หัวหน้าได้รับมอบหมายมาอีกทีครับ”
เพื่อนชาวต่างชาติเคยมีมาถามอะไรเกี่ยวกับพระองค์ท่านบ้างมั้ย ?
“ก็มีนะครับ แต่ผมจะอธิบายในแง่ที่ว่า เค้าคือภาษาอังกฤษผมว่าเค้าคือ Cool Guy ดนตรีก็ได้ ศิลปะก็ได้ วิทยาศาสตร์ทุกแขนงที่คนเราสามารถจะเป็นได้ พระองค์ท่านเป็นและเก่งหมดเลย แทนที่ท่านจะนำทุกอย่างไปใช้เพื่อตัวเอง แต่ว่าท่านใช้ความสามารถเพื่อประชาชนและประเทศชาติ พูดแค่นี้ชาวต่างชาติก็น่าจะเข้าใจแล้วครับ”
ปลาบปลื้มหรือชื่นชอบพระอัจฉริยภาพของพระองค์ด้านใด ?
“ด้วยความที่ผมเป็นนักร้องนะครับ ก็ชื่นชอบทางด้านดนตรีเพราะว่าบทเพลงที่พระองค์ท่านประพันธ์ ท่านเรียกว่าซึ้งกินใจ มีความไพเราะ เป็นอมตะด้วย อย่างบางทีเพลงทุกวันนี้เราฟังเบื่อๆ พอเปิดเพลงพระราชนิพนธ์ฟัง เปลี่ยนอารมณ์ทำให้เรามีความสุขได้เหมือนกัน”
สุดท้ายอยากให้ฝากให้กำลังใจประชาชนที่กำลังเศร้าโศกอยู่ในตอนนี้ ?
“ขอให้ทุกคนเข้มแข็ง ตั้งสติให้ดีนะครับ ทำตัวเป็นคนดี ผมเชื่อว่าถ้าคนไทยทุกคนสามัคคีกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รักกันมาก ๆ พระองค์ท่านที่มองลงมาจากเบื้องบนจะทรงปิติยินดีอย่างแน่นอนครับ”
เรียบเรียงโดย กัณฑณัฏฐ์ จันทรมงคล