เป็นอีกหนึ่งสาวคุณภาพมากด้วยฝีมือ สำหรับ “นุ่น ศิรพันธ์ วัฒนจินดา” ล่าสุดเจ้าตัวได้ไปเล่นหนังที่ฮ่องกงแล้ว เรียกว่าโกอินเตอร์เป็นที่เรียบร้อย เรามีโอกาสเจอสาวนุ่นที่งาน ครบรอบ 50 ปี LIVE IN LEVI’S ณ YELO HOUSE ไปสอบถามถึงเรื่องนี้ดีกว่า
พูดถึงภาพยนตร์หน่อยเห็นว่าไปเล่นหนังที่ฮ่องกง?
“ใช่ค่ะมีโอกาส ครั้งหนึ่งในชีวิตไปแตะๆหนังต่างประเทศค่ะ”
เขามาเห็นเราได้ยังไง?
“ก็ไปแคสหนัง มีโอกาสไม่กี่ครั้งที่ได้ไปแคสในต่างประเทศสำหรับค่ายนี้ด้วยวันของเราที่มันเหมาะสม ก็ตั้งใจไปแคสเองเลย คนที่ตื่นเต้นไม่ใช่นุ่นนะ คนที่ตื่นเต้นคือพี่ท็อป พี่ท็อปบอกว่าไปขอลายเซ็นเขามาได้ไหม(หัวเราะ)แอบกระซิบมา”
เรียกว่ากระทบไหล่ดาราดัง?
“ในเรื่องนี้มีมาเล่นด้วยแต่เราไม่มีโอกาสได้ร่วมซีน จริงๆก็ไปแคสเหมือนปกติเลยแล้วเขาก็ดูว่าใครเหมาะสมกับบท ถ้าหน้าไทยๆ แล้วอายุขนาดนี้คงมีไม่กี่คนหรอก”
ไปเล่นเป็นยังไงบ้าง?
“จริงๆมันน้อยมากเลยนะ แต่มันก็เป็นประสบการณ์ที่ดี คือระบบการทำงานของเขาและอาหารการกินดีมาก ผู้กำกับเขาก็เก่งมาก นุ่นต้องหัดพูดจีนซ้อมนานมาก เขาก็จะมีเวลาบอกด้วยว่าแต่ละซีนเพื่อจะเอาไปใช้ในฉาก นุ่นพูดนานมากและพูดช้าเขาก็จะมากระชับให้เร็วขึ้นๆ สุดท้ายพูดภาษาไทยเลย คือแบบเขาทำงานมีระบบ ถ้าเขามีเวลาเขาคงแก้ไขปัญหาให้มันสอดกับเรื่องมากกว่านี้ ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีทุกคนเป๊ะมากและเราก็สนุกสนานกับกองถ่ายมากทีมงาน 90% เป็นคนฮ่องกง มันจะมีความตลกนิดนึง ตอนเช้าเราออกกองเราต้องกินข้าวราดแกงทีมงานเขาพอเห็นก็น่ารักดี”
“เขาจะให้คนอัดเสียงสำเนียงที่เป๊ะและให้เราฟังแล้วก็จะมีน้องที่เป็นคนแปลภาษาคอยประกบอันไหนที่พอพูดได้เขาก็จะคอยบอก ก็อยากให้มาดูนะเพราะเรื่องนี้มีพี่จา พนม หลายๆคนคงคิดถึงพี่จา และรอบนี้พี่จาก็มาเต็มมากเลย”
อะไรทำให้เราตัดสินใจไปเล่น?
“อาจจะเป็นเพราะว่าที่เขาเรียกไป เขาอาจจะมีข้อมูลของเราอยู่แล้ว ตัดสินใจไปเพราะเป็นโอกาสที่ดีได้ร่วมงานกับคนต่างชาติและบทมันไม่ได้ยากไม่งั้นมันจะกดดัน”
คู่แข่งเราเยอะไหม?
“อันนี้ไม่ทราบจริงๆ เรียกว่าโกอินเตอร์หรือยังหรอยังหรอกคิดว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี”
มีโอกาสจะเล่นหนังอื่นๆอีกไหม?
“นุ่นยังไม่ได้คาดคิดขนาดนั้นแค่คิดว่ามีโอกาสได้ทำงานครั้งนึง การที่เขาจะเอาเราไปเล่นเขาจะดูที่พื้นฐานอยู่แล้วว่าคาแรคเตอร์เหมาะสมหรือเปล่า ถ้าไปแคสแล้วไม่ได้ก็ไม่เป็นไรเพราะมันเป็นหน้าที่ๆเราต้องทำอยู่แล้ว เราก็แค่ยอมรับว่าเราไม่เหมาะกับเรื่องนี้แล้วก็ยอมรับมันพัฒนาตัวเองขึ้นอีก”
เรียบเรียงโดย ชานนท์ พิทักษ์ตันสกุล
