“กอล์ฟ F.HERO” สร้างอุโมงค์ดักยูนิคอร์นกับ “น้องชูใจ” ในวันที่งานถูกเลื่อน

-- โฆษณา --

เรียกว่าพลิกวิกฤติหฤโหด Covid-19 ให้เป็นโอกาสอันแสนน่า อบอุ่นฉบับพ่อลูก “กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่” กับลูกสาวคนเก่ง “น้องชูใจ”
ในเมื่อคุณพ่อไม่ได้ออกไปทำงานดนตรีด้านนอกเหมือนทุกวัน ก็หันมาทดลองสมมติฐานของลูกสาวว่ายูนิคอร์นมีอยู่จริงหรือเปล่า ด้วยการตื่นเช้าขึ้นมาช่วยกันสร้างอุโมงค์สีรุ้งดักยูนิคอร์น เจ้าตัวถึงกับเผยว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ทำให้นึกถึงช่วงเวลาสมัยเด็กของตน พร้อมทั้งแชร์โมเมนต์นี้ไว้อย่างน่ารักมากๆ อยากให้ทุกคนลองอ่านดูนะจ๊ะ

“งานเลื่อนเยอะมาก จากเคยยุ่งตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน๊อต อยู่ๆก็กลายเป็นคนเวลาเหลือบานเบอะ

ผมเคยนั่งคิดว่าวันหนึ่งๆที่ผมทำงานช่วงพีคๆ 24 ชม. ผมสามารถทำเงินได้มากโข เวลาของผมเป็นเงินเป็นทองมาก วันหนึ่งพองานหาย ชีวิตเลยงงๆ

ตื่นมาเช้าวันที่ชูใจปิดเทอม ปกติแม่จะต้องพาเธอไปทำกิจกรรมในห้าง แต่ช่วงนี้ก็ต้องมีอันงด เพราะหลีกเลี่ยงโรคติดต่อ สองพ่อลูกจึงมีอันถูกกักบริเวณอยู่บ้านไปโดยปริยาย อยู่มาหลายวันเลยเฉาๆ เหงาๆ “ป๊ะป๋า เราไปทำอุโมงค์สีรุ้งดักยูนิคอร์นกันดีมั้ยคะ” ลูกชวนผมในบ่ายวันที่อากาศสุดร้อน

ผมเคยสัญญากับลูกไว้นานแล้วว่าจะช่วยเธอทำอุโมงค์สีรุ้ง ชูใจเชื่อว่าถ้าเราทำสิ่งนี้แล้วเอาขนมล่อไว้ ยูนิคอร์นจะมากินตอนกลางคืน ผมนึกสนุกอยากกลับไปเล่นเหมือนตอนเอาผ้าห่มสร้างบ้านเมื่อตอนเด็กๆ เลยตัดสินใจทำเมกะโปรเจคท์สร้างอุโมงค์สีรุ้งกับลูก

บ้านเราจะมีนโยบายไม่ขัดสมมติฐานของลูก ถ้าลูกสงสัยอะไรผมกับเบลจะให้ลูกทดลองเองจนกว่าจะรู้ผล เช่นการจะพิสูจน์ว่ายูนิคอร์นมีจริงหรือไม่ เราก็จะช่วยลูกทำการทดลองแบบของเธอ แล้วตั้งกล้องวีดีโอไว้ถ่ายผลลัพธ์แบบจริงจัง

แต่เนื่องจากงานที่รัดตัวมาก การทดลองนี้จึงติดอยู่ในโปรแกรมทองที่คิดจะทำมาเนิ่นนาน พอว่างจัดขนาดนี้ วันนี้เลยถึงวันรันโปรเจคท์

ผมออกไปหาโครงสร้างอุโมงค์ก่อนจะได้มุ้งพับมาหลังหนึ่ง เราดำเนินการตกแต่งหาสติ๊กเกอร์ กระดาษสีมาตัด มาแปะ สุดท้ายก็ได้อุโมงค์สีรุ้งมางดงามเป็นที่น่าพอใจ

ชูใจเอาขนมที่จะใช้ล่อยูนิคอร์นมาวางอย่างสนุกสนาน เธอตื่นเต้นและเชื่อเต็มใจว่ายูนิคอร์นจะต้องมากินขนมของเธอ ผมบอกลูกว่าเราจะตั้งกล้องไว้ดูผ่านจากกระจกในบ้าน จับภาพไว้ แต่การถ่ายเจอหรือไม่เจอไม่ใช่ตัววัดได้ร้อยเปอร์เซนต์ว่ายูนิคอร์นมีจริงหรือไม่ มันเป็นเพียงสมมติฐานเดียว เมื่อเธอเติบใหญ่เราอาจค้นพบทางอื่นที่จะเจอยูนิคอร์นได้อีกจริงๆก็ได้

ลูกรับคำผม ก่อนจะตอบว่า “ไม่เป็นไรค่ะ หนูเชื่อว่ายูนิคอร์นมีจริง ถ้ายังไม่เจอก็ไม่เป็นไร”

นานแค่ไหนแล้วที่ผมหลงลืมเรื่องความฝันแบบนี้ไป เด็กที่เคยเอาผ้าห่มสร้างบ้านแล้วเชื่อว่ามันเป็นฐานทัพ ความสุขของผมตอนเด็กๆมันง่ายกว่านี้มาก

แววตาไร้เดียงสาของลูกพาผมย้อนกลับไปคิดถึงคำว่าเวลาเป็นเงินเป็นทอง อาชีพอย่างผมนั้นเป็นอาชีพที่แสนเปราะบาง ขาดวิ่นง่าย และไม่เคยอยู่จีรัง เวลาที่จะใช้ทำเงินนั้นแสนสั้น

ที่เหลืออยู่คือเวลาที่จะประคองชีวิตตนอย่างไรให้จบอย่างมีความสุขเท่านั้นเอง

อย่างน้อยวันนี้ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่ว่ายูนิคอร์นมีจริง แต่ผมพบแล้วว่ามีจริงในแววตาลูกสาวผม

ผมพบยูนิคอร์นในแววตาเธอ พร้อมๆกับเวลาแห่งความสุขนั้นเอง”

 

 

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here